วันที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลา 23.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้มงวดตรวจสอบพื้นที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติหนาแน่น เช่น ย่านนานา เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เพื่อป้องกันการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติ

จากนโยบายดังกล่าว พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต. โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. นำกำลัง ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บช.น. (ศอ.ปส.บช.น.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. และตำรวจสายสืบปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยว “เปิดปฏิบัติการทลายรังแขก” ตรวจสอบอาคารพาณิชย์ต้องสงสัยในซอยสุขุมวิท 3 เขตวัฒนา

นำกำลัง ศอ.ปส.บช.น., บก.สส.บช.น. และชุดลาดตระเวน "On Ground" ลงพื้นที่ย่านนานา โดยใช้ตำรวจสายสืบปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยว จนพบพฤติกรรมกลุ่มชายชาวต่างชาติพยายามชักชวนนักท่องเที่ยวให้ซื้อยาเสพติดภายในอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 3 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ซึ่งภายในพบ “ร้านตัดผม” บังหน้า มีกิจกรรมค้ายาเสพติดในห้องลับชั้น 5 เมื่อเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบยาเสพติดหลายชนิด รวมถึงอุปกรณ์เสพและของกลางอื่น ๆ พร้อมจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 8 ราย ประกอบด้วยชาวต่างชาติ 7 คนและคนไทย 1 คน โดยเป็นชาวอียิปต์ เมียนมาร์ ปากีสถาน อัฟกานิสถาน และอิรัก โดยมีข้อหาหลักคือร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และประเภท 5 พร้อมข้อหาอื่น ๆ เช่น ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต และเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย ขณะที่คนไทยซึ่งเป็นเจ้าของร้านและนายจ้าง ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาโดยอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและเพียงแค่ขายกัญชาและเปิดร้านทำผมเท่านั้น

เจ้าหน้าที่ตรวจยึดยาเสพติดหลายชนิด อาทิ ยาอี ยาไอซ์ โคเคน ยาบ้า เห็ดเมา และบุหรี่เถื่อน พร้อมด้วยอุปกรณ์เสพและสมุดบัญชีธนาคาร รวมถึงเงินสดจำนวนหนึ่ง โดยสุนัขดมกลิ่นมีส่วนช่วยค้นหายาเสพติดที่ซ่อนในเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในอาคาร รวมทั้งชุดสายสืบปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวช่วยเปิดโปงแผนการลักลอบจำหน่ายยาดังกล่าว
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพบว่ากลุ่มนี้เป็นขบวนการที่แบ่งหน้าที่กันชัดเจนและเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมรูปแบบอื่น ๆ อีก ทั้งยังมีชาวอาหรับบางรายในพื้นที่ย่านนานาเป็นผู้มีอิทธิพล สร้างความหวาดกลัวและทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ จึงสั่งการให้เร่งขยายผลและบูรณาการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างจริงจัง เพื่อความปลอดภัยและความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวในประเทศไทย