พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 16 ถึง 20 ตุลาคม 2568 นี้ หมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือจีน จำนวน 2 ลำ ประกอบด้วย เรือ CNS OIJJIGUANG และ เรือ ONS YIMENG SHAN พร้อมกำลังพลจำนวน 1,214 นาย ซึ่งประกอบด้วยนักเรียนนายเรือ นักเรียนเรือดำน้ำ แบะนักเรียนแพทย์ทหารเรือ จะเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยจอดเรือเทียบ ที่ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

สำหรับวัตถุประสงค์ในการเข้ามาเยือน ประเทศไทยในครั้งนี้นอกจากเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกภาคปฏิบัติในทะเลต่างประเทศของนักเรียนนายเรือจีนแล้ว ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือของทั้งสองประเทศ โดย พลเรือเอกกรวิทย์ ฉายะรถี ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และ หมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือจีน ณ ท่าเรือจุกเสม็ด ในวันที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 09:45 น. ในการนี้กองเรือยุทธการได้จัดเรือหลวงช้าง และอากาศยานจากกองการบินทหารเรือ ออกไปร่วมให้การต้อนรับพร้อมทำการฝึก PASSEX ซึ่งมีหัวข้อการฝึกประกอบด้วย การฝึกทดลองการติดต่อสื่อสารด้วยล่ามไทยจากกองเรือดำน้ำ การฝึกการสื่อสารทางทัศนสัญญาณ การฝึกแปรกระบวนทางยุทธวิธี โดยในห้วงเวลาที่อยู่ในประเทศไทยคณะนักเรียนนายเรือจีน มีกำหนดเยี่ยมชมโรงเรียนนายเรือ เรือหลวงจักรีนฤเบศร และโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อีกด้วย

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ไทยและจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีความใกล้ชิด มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในทุกระดับอย่างสม่ำเสมอ และมีการขยายความร่วมมือเชิงลึกในทุกมิติ โดยในปี 2568 นี้ ครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน โดยในส่วนของกองทัพไทยและกองทัพจีน มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและดำเนินความร่วมมือทางทหารผ่านกิจกรรมที่สำคัญ อาทิ การแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้บังคับบัญชาและข้าราชการในทุกระดับ รวมทั้งการเยือนเมืองท่าของเรือรบ การฝึกร่วมผสม การจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงการแลกเปลี่ยนและการสนับสนุนความร่วมมือด้านการศึกษา โดยการเดินทางเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ หมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือจีน ได้เปิดโอกาสให้นักเรียนนายเรือไทยเยี่ยมชมเรือ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งนี้ กองทัพเรือไทยและกองทัพเรือจีนได้มีการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาในหลักสูตรทางการทหารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนจะมีความแน่นแฟ้นและยั่งยืนตลอดไป
