การเมืองท้องถิ่นในกรุงเทพมหานครกำลังถูกจับตามองอีกครั้ง เมื่อกลุ่มการเมืองอิสระในสภา กทม. ที่ชื่อว่า "Bangkok First" ได้ขยับตัวขึ้นมาเป็นกลุ่มขนาดใหญ่อันดับสองอย่างรวดเร็ว โดยนายนภาพล จีระกุล ส.ก. เขตบางกอกน้อย หนึ่งในผู้ริเริ่มแนวคิดกลุ่มอิสระ เปิดเผยความเข้าใจถึงจุดเริ่มต้น แนวทางการดำเนินงาน และความคาดหวังในการทำงานเพื่อชาวกรุงเทพฯ

จุดเริ่มต้นและแรงจูงใจในการก่อตั้ง
นายนภาพล เล่าถึงจุดเริ่มต้นและแรงจูงใจในการก่อตั้งกลุ่มว่า กลุ่มนี้เริ่มมีแนวคิดก่อตั้งมานานแล้ว ตั้งแต่หลังจากตนเองได้ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยได้เริ่มมีแนวคิดร่วมกับนายสุชัย พงษ์เพียรชอบ ส.ก. เขตคลองเตย มาตั้งแต่แรกเริ่ม แต่เดิมแนวคิดเริ่มแรกคือการตั้งกลุ่มอิสระอีกกลุ่มหนึ่งและกำลังหาชื่ออยู่ แต่หลังจากมี ส.ก. หลายคนที่มีความคิดตรงกันทยอยเข้าร่วม ทำให้เกิดการรวมกลุ่มกันภายใต้ชื่อ "Bangkok First" ในปัจจุบัน
สาเหตุหลักที่ทำให้ ส.ก. ทั้งจากพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนบางคนตัดสินใจย้ายมาอยู่กลุ่มอิสระนั้น มาจากความอึดอัดในการทำงานภายใต้พรรคการเมือง โดยเฉพาะในพรรคใหญ่ ที่ ส.ก. มักจะโดนพรรคบังคับ และสั่งการอยู่ตลอดเวลา สมาชิกเหล่านี้ขาดความเป็นตัวของตัวเอง และรู้สึกเหมือนเป็นหุ่นยนต์ในการทำงาน การประชุมสภา กทม. ในสมัยที่ผ่านมามีการถ่ายทอดสด ซึ่งทำให้พรรคสามารถมอนิเตอร์และสั่งการผ่านไลน์ได้ทันที ณ เวลาประชุมนั้น ซึ่งการทำงานที่ไม่เป็นอิสระนี้ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างเต็มที่
สถานะปัจจุบันและพลังใหม่ในสภา กทม.
ปัจจุบัน กลุ่ม Bangkok First ได้ก้าวขึ้นมาเป็นกลุ่มที่ใหญ่เป็นอันดับสองในสภา กทม. รองจากพรรคเพื่อไทย ขณะนี้กลุ่มมีสมาชิกที่แน่นอนแล้ว 12 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากกว่ากลุ่มพรรคประชาชนที่เหลืออยู่ประมาณ 7-8 คน และประชาธิปัตย์ที่เหลือ 3-6 คน ส่วนพรรคเพื่อไทยปัจจุบันมี ส.ก. เหลือประมาณ 21-22 คน
นายนภาพล คาดการณ์ว่า จะมี ส.ก.ทยอยเข้ามาเพิ่มอีกประมาณ 4-5 คน ก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งเมื่อรวมกับจำนวนสมาชิกปัจจุบัน กลุ่มจะมีพลังในการต่อรองและพูดคุยกับฝ่ายบริหารในการแก้ไขปัญหาได้มากขึ้น
นอกจาก ส.ก. เก่าที่ย้ายเข้ามาแล้ว กลุ่มยังเปิดรับสมาชิกใหม่ที่จะลงสมัคร ส.ก. ในแต่ละเขตด้วย โดยปัจจุบันมีผู้สมัครใหม่ที่สนใจจะลงในนามกลุ่มเข้ามาแล้วกว่า 20-30 คน อย่างไรก็ตาม กลุ่มกำลังเผชิญปัญหาเรื่องเขตทับซ้อน ทำให้ไม่สามารถรับ ส.ก. เก่าที่มีฐานคะแนนอยู่แล้วเข้ามาได้อีก เนื่องจากมีผู้สมัครใหม่ได้รับการอนุมัติให้เดินหน้าทำพื้นที่ไปก่อนแล้ว
เพื่อสร้างความรับรู้และภาพลักษณ์ของกลุ่ม ทางกลุ่มมีแผนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนนี้ และจะมีการขึ้นป้ายบิลบอร์ดประมาณ 2-3 จุด ในอีกวันสองวันนี้
แนวทางการทำงาน: เน้น กทม. และความเป็นเอกภาพ
แนวทางหลักของ Bangkok First คือการมุ่งเน้นปัญหาในกรุงเทพฯ เพียงอย่างเดียว และแก้ไขปัญหาทุกด้านของชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเป็นภารกิจหลักอยู่แล้ว สมาชิกแต่ละคนมีฐานความรู้และความคิดทางด้านพื้นที่ของตนเอง โดยเน้นให้แต่ละคนทำงานพื้นที่หนักขึ้น และรับผิดชอบพื้นที่ของตนเองอย่างจริงจัง
หัวใจสำคัญของการทำงานคือ ความเป็นอิสระและเอกภาพของกลุ่ม หากกลุ่มมีความเป็นเอกภาพและเดินไปในทิศทางเดียวกัน สมาชิกทุกคนก็ต้องไปตามนั้น ห้ามบิดเบือนคำสั่ง ซึ่งจะทำให้การทำงานง่ายขึ้น ไม่ซับซ้อน และสามารถผลักดันเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อ กทม. ได้อย่างเต็มที่
กลุ่มตระหนักดีว่าการไม่มีเอกภาพในอดีตทำให้เกิดปัญหา เช่น งบประมาณหลายตัวที่ควรจะไปแก้ปัญหาเร่งด่วน กลับไม่ได้ถูกแก้ไข และเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนบางอย่างก็ไม่สามารถเดินหน้าได้ ยกตัวอย่างกรณีข้อบัญญัติเกี่ยวกับการพัฒนาและการใช้สอยทรัพย์สินที่ใช้สอยร่วมกันในพื้นที่เอกชน เช่น หมู่บ้านเก่าที่ทิ้งร้าง หรือถนนส่วนบุคคล ซึ่งข้อบัญญัตินี้มีความสำคัญต่อการพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น การลอกท่อหรือการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างเพื่อความปลอดภัย แต่กลับเกิดความล่าช้า เพราะต้องให้ผู้ว่าฯ กทม. เซ็นรับรอง ซึ่งใช้เวลานานถึง 3-5 เดือน จนต้องมีการพูดทวงถามกันในสภาเพื่อเร่งรัด
"การตั้งกลุ่ม Bangkok First ไม่ขัดต่อกฎหมาย เนื่องจากภาคท้องถิ่นไม่ได้บังคับให้ ส.ก. ต้องสังกัดพรรคการเมือง กลุ่มนี้จึงเป็นเพียงกลุ่มอิสระที่มีชื่อกลุ่มเท่านั้น และไม่ต้องจดทะเบียนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งคล้ายคลึงกับกลุ่ม 'รักษ์กรุงเทพฯ' ที่เคยก่อตั้งโดยอดีตผู้ว่าฯกทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ซึ่งก็ได้ ส.ก. มา 3-4 คน" นายนภาพล กล่าว
ความคาดหวัง เป้าหมาย และแผนในอนาคต
เป้าหมายระยะสั้นคือการทำให้คนรู้จักกลุ่มให้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพื่อให้ชาวบ้านเห็นผลงานและเกิดความน่าเชื่อถือ
ในการเลือกตั้งครั้งหน้า กลุ่มคาดหวังว่า ส.ก. เก่าที่มีความชำนาญ มีความใกล้ชิด และมีฐานเสียงอยู่แล้วจะสามารถชนะการเลือกตั้งได้โดยไม่ยาก แต่คู่ต่อสู้ที่แท้จริงคือกระแสของประชาชน ไม่ใช่พรรคการเมือง หากไม่มีกระแสช่วย ส.ก. ใหม่จะไม่สามารถสู้ ส.ก. เก่าได้
สำหรับ ส.ก. ใหม่ กลุ่มต้องใช้ความพยายามในการช่วยผลักดันและสร้างแบรนด์ โดยเฉพาะกลุ่มที่ตัวเขาเองไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ซึ่งกลุ่มกำลังหาแนวทางและวิธีการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และต้องให้ชาวบ้านได้เห็นถึงการทำงานของพวกเขา
ด้านแผนการลงเลือกตั้ง กลุ่มจะไม่ส่งผู้สมัครทุกเขต แต่จะเน้นเฉพาะเขตที่พิจารณาแล้วว่ามีโอกาสชนะมากที่สุด
สำหรับอนาคตระยะยาว นายนภาพลยืนยันว่า ยังไม่คิดไปถึงขั้นการตั้งพรรคการเมือง และจะเน้นการทำงานใน กทม. ต่อไปอีกนาน แต่หลังจากการเลือกตั้ง ส.ก. แล้ว อาจจะมีการพูดคุยกับกลุ่มอื่น ๆ ที่มีแนวคิดคล้ายกันเพื่อทำงานร่วมกันหรือรวมกลุ่มกันได้ในอนาคต เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพในการทำงานที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น หากกลุ่มสามารถดูแลสมาชิกได้ดีและให้อิสระในการทำงาน พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน
ในท้ายที่สุด นายนภาพลย้ำว่า กลุ่ม Bangkok First มุ่งมั่นที่จะเป็นพลังที่แข็งแกร่งในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวกรุงเทพฯ ทั้งเรื่องความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และเศรษฐกิจ ที่ชาว กทม. กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ โดยอาศัยความเข้มแข็งของกลุ่มที่ไม่มีใครสามารถมาสั่งการได้ เพื่อให้งานทุกชิ้นที่ผ่านสภานำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่าพลังของกลุ่มจะมีความเป็นเอกภาพได้ยั่งยืนเพียงใด อาจมีปัจจัยให้เปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต