ร่วมสมัย / ชะมวง พฤกษาถิ่น : สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย(สศร.) เดินหน้าขับเคลื่อนงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย หนุนนโยบาย “ไท ไทย” ของรมว.วธ. เสริมสร้างและพัฒนาระบบนิเวศศิลปะทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคม และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย

นางเกษร กำเหนิดเพ็ชร ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย(สศร.) กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เปิดเผยแนวทางในการขับเคลื่อนงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยในปี 69 สอดคล้องตามนโยบาย “ไท ไทย” ของนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ที่มุ่ง“สืบสาน สร้างสรรค์ นำวัฒนธรรมไทยสู่อนาคตอย่างยั่งยืน” โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อการส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคม ผ่านงานสำคัญใน 4 ด้าน ด้านแรก การเสริมพลังการเทิดทูนสถาบันหลักของชาติและสืบสานสร้างสรรค์ทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน ซึ่งจะดำเนินการในด้านการพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อการบริหารจัดการงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย การพัฒนาระบบฐานข้อมูลสำคัญ อาทิฐานข้อมูลศิลปินร่วมสมัย ศิลปินศิลปาธร ให้พร้อมใช้แบบอัตโนมัติ (Machine Readable) เป็นไปตามมาตรฐานในระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ (Government Data Catalog) ตลอดจนการพัฒนางานนิทรรศการเสมือนจริง เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ด้านที่ 2 การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วยมิติทางวัฒนธรรม ตลอดจนพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมวัฒนธรรม ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยเร่งดำเนินงานพัฒนาการออกแบบแฟชั่นและเครื่องแต่งกายร่วมสมัย เจาะพื้นที่หลัก 14 จังหวัดภาคใต้ สร้างความเข้มแข็งแก่ผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการออกแบบ บุคลากร และการตลาด เพื่อให้ผ้าไทยสวมใส่ได้ง่ายในชีวิตประจำวัน และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกเพศ ทุกวัย
ด้านที่ 3 พัฒนาสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้และการสร้างสรรค์งานด้านศิลปวัฒนธรรม โดยขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาหอศิลป์และแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมในส่วนภูมิภาคได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพและมีมาตรฐาน ทั้งในด้านพื้นที่ การบริหารจัดการ และบุคลากรที่เกี่ยวข้องให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ รวมถึงการจัดตั้งภาคีเครือข่ายหอศิลป์และแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมในส่วนภูมิภาค เพื่อขยายผลไปสู่ระดับประเทศ และระดับนานาชาติต่อไป นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการพัฒนาเมืองศิลปะ ทั้ง 3 เมืองเดิม คือกระบี่ นครราชสีมา และเชียงราย และการคัดสรรเมืองใหม่ เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม ที่สามารถต่อยอดไปสู่การสร้างอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ด้านศิลปะและการท่องเที่ยวในอนาคต สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร นอกจากการเปิดหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนินในช่วงเดือนมกราคม 2569 หลังการปิดซ่อมแซมเพื่อปรับปรุงและพัฒนาระบบการบริหารจัดการเพื่อให้สามารถรองรับการจัดนิทรรศการและเป็นแหล่งเรียนรู้ศิลปะร่วมสมัยของคนกรุงเทพแล้ว สศร.จะขับเคลื่อนการจัดเทศกาลศิลปะแห่งกรุงเทพ ให้เป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์ของผู้ที่มีใจรักงานศิลปะร่วมสมัย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เป็นเวทีทางด้านการแสดง ดนตรี เวิร์กชอป และนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย รวมทั้งพื้นที่ของผู้ประกอบการทางด้านศิลปะที่จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน

ในด้านสุดท้าย ด้านที่ 4 การพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการงานศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมสู่ระดับสากล สศร.จะส่งเสริมสนับสนุน ศิลปิน องค์กรเครือข่ายให้มีพื้นที่ในการแสดงศักยภาพ อาทิ การเข้าร่วมในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยทั้งในระดับชาติและนานาชาติ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale ซึ่งเป็นงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Phuket 2025 จะเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 นี้ และจัดต่อเนื่องไปจนถึง 30 เมษายน 2569 เป็นเวลาถึง 5 เดือน คาดการณ์ว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะร่วมสมัยให้เข้าชมงาน กระตุ้นการสร้างงานและเศรษฐกิจในพื้นที่และประเทศไทย รวมทั้งการคัดเลือกจังหวัดเจ้าภาพในครั้งถัดไป ซึ่งถือเป็นเทศกาลศิลปะร่วมสมัยสำคัญที่ สศร. ใช้เป็นกลไกขับเคลื่อนมิติของศิลปวัฒนธรรมทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และภาพลักษณ์ของประเทศลงไปสู่ภูมิภาค และขอเชิญชวนผู้สนใจทุกท่านได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Phuket 2025 พบกันที่จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 นี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ในด้านของการขับเคลื่อนทุนเพื่อการสร้างสรรค์ผลงาน สศร. มีการดำเนินงานในส่วนของกองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัยและการให้การอุดหนุนการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัย ซึ่งจะเป็นทุนสำคัญเพื่อให้เครือข่ายทั้งศิลปินและผู้สนใจงานศิลปะ ได้ขอรับการสนับสนุนในการสร้างสรรค์ สามารถติอตามข่าวสารการสนับสนุนเหล่านี้ผ่าน www.ocac.go.th รวมทั้งเพจเฟ๊ซบุ๊ค สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
“สุดท้าย ในปี 2569 การทำงานของ สศร. จะไม่ดำเนินงานเพียงผู้เดียว แต่จะใช้การประสานงานความร่วมมือกับทุกฝ่าย ทั้งเครือข่ายศิลปิน เครือข่ายศิลปวัฒนธรรม ผู้ประกอบการและชุมชน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย สร้างระบบนิเวศทางศิลปะ เสริมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคม ตลอดจนการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทยในเวทีนานาชาติ” ผอ.สศร. กล่าว