ปรากฏการณ์ “เจนนี่” เขย่าโลกชอปปิ้ง ส่งสัญญาณค้าปลีก...เร่งปรับตัวเศรษฐกิจยุคใหม่
“เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” หรือ รัชนก สุวรรณเกตุ กลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงอีกครั้งในโลกออนไลน์ หลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการไลฟ์ขายของมาราธอนทุบสถิติขายทะลุร้อยล้าน คิดเป็นยอดขายรวมๆ ในช่วงวันที่ 10-14 ตุลาคม เฉียดๆ 300 ล้านบาท และล่าสุด ควง “อั้ม พัชราภา” ทำเงิน 60 ล้าน จาก 1.08 แสนออเดอร์ ใน 10 นาที คนดูไลฟ์เกิน 1.1 ล้านวิว โกยคอมมิชชัน 5.4 ล้าน
ปรากฏการณ์การไลฟ์สดขายสินค้าแบบมาราธอนของ "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" บนแพลตฟอร์ม TikTok ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ไม่ได้เป็นเพียงกระแสบันเทิง แต่กำลังส่งแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ต่อทิศทางของเศรษฐกิจการค้าปลีกและการตลาดในประเทศไทย รวมทั้งยังชี้ให้เห็นการเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจไทยสู่ยุค “ครีเอเตอร์อีโคโนมี” จนกลายเป็นรูปแบบธุรกิจที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในยุคดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม จากปรากฏการณ์ "เจนนี่" ที่ไลฟ์ขายของทาง TikTok กลายเป็นกรณีศึกษา ที่นักการตลาดให้ความสนใจ โดย “หอการค้าไทย” ชี้ว่า เศรษฐกิจไลฟ์สดกำลังเป็นฟันเฟืองสำคัญของประเทศ โดยคาดว่ามูลค่าตลาดค้าขายผ่านโซเชียลมีเดียจะทะลุ 200,000 ล้านบาท และเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะในต่างจังหวัด
ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนที่สุดจากปรากฏการณ์ "เจนนี่ฟีเวอร์" คือการเปลี่ยนแปลงของทิศทาง เม็ดเงินโฆษณา นักวิเคราะห์จากหลายสำนักมองตรงกันว่า การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ในช่องทางออนไลน์กำลังดึงเม็ดเงินโฆษณาจำนวนมหาศาลออกจาก "สื่อดั้งเดิม" ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ หรือสิ่งพิมพ์
แบรนด์ต่าง ๆ เห็นแล้วว่าการใช้ดารา/อินฟลูเอนเซอร์มาเป็นพรีเซนเตอร์ในรูปแบบไลฟ์สดที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง สามารถวัดผลยอดขายได้ทันที และมีอัตรา Conversion Rate สูง กว่าอีคอมเมิร์ซแบบดั้งเดิมอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้ประกอบการเลือกที่จะจัดสรรงบประมาณมาทุ่มกับการตลาดในรูปแบบ Creator Commerce มากขึ้น ส่งผลให้รายได้จากโฆษณาของสื่อกระแสหลักกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับกลุ่มผู้ค้าปลีกรายใหญ่หรือห้างสรรพสินค้า (Retail Giants) นักวิเคราะห์มองว่าปรากฏการณ์ "เจนนี่" อาจยังไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการโดยตรง เนื่องจากกลุ่มธุรกิจเหล่านี้ได้ปรับตัวเข้าสู่ช่องทางอีคอมเมิร์ซมานานแล้ว และจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ซึ่งมีการแข่งขันสูงยากที่จะถูกทดแทนได้ง่าย ๆ
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของ “เจนนี่” ทำหน้าที่เป็น "สัญญาณเร่ง" ให้บริษัทขนาดใหญ่ต้องตื่นตัวและปรับใช้กลยุทธ์การตลาดแบบไลฟ์สด ที่เน้นความบันเทิง ความโปร่งใส และความจริงใจมากขึ้น เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในโลกอีคอมเมิร์ซที่การแข่งขันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ปรากฏการณ์นี้จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่ตอกย้ำว่า ในยุคเศรษฐกิจผู้สร้าง การขายของไม่ได้อยู่ที่ขนาดของร้าน แต่อยู่ที่ "การเข้าถึง" "เรื่องราว" และ "พลังในการสร้างความไว้ใจ" ให้กับผู้บริโภคในโลกออนไลน์