วันที่ 14 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนที่ดินที่การรถไฟอ้างสิทธิ์ว่าเป็นของการรถไฟแล้วถูกศาลพากษาให้ที่ดินตกเป็นของการรถไฟ จำนวน 35 รายจาก 995 ราย ยอมรับคำตัดสินของศาลแล้ว แต่อยากให้การรถไฟลดราคาค่าเช่าที่ดิน หรือไม่ต้องเก็บย้อนหลัง เพราะส่วนใหญ่มีฐานะยากจน วันที่ 7 ส.ค.68 หลังจากศาลฏีกาที่ 842-876/2560 รวมทั้งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่มีคำพิพากษายืนตามศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3)ของชาวบ้านจำนวน 35 รายในเขตพื้นที่ ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
โดยทั้ง 35 รายนี้ อยู่ในกลุ่ม 995 รายที่มีเอกสารสิทธิ์ แต่ถูกการรถไฟอ้างสิทธิ์รวมทั้งหมด 5,083 ไร่ แต่ยังไม่ถูกการรถไฟฟ้อง การตัดสินของศาลฏีกาดังกล่าว ชาวบ้านส่วนใหญ่เริ่มทำใจและรับสภาพได้แล้วถึงแม้ในใจคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ตาม

นาย สุดทาย พิลาดี อายุ 65 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน มองว่าชาวบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะพวกตนต่อสู้คดีเรื่องนี้มาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2511 เรื่องคดีศาลตัดสินแล้วเราก็ยอมรับหลังจากนี้การรถไฟจะรื้อถอนหรือเก็บค่าเช่าตนไม่ทราบ แต่คาดว่าการรถไฟจะให้เช่าที่ดิน แต่ต้องเสียค่าเช่าย้อนหลัง แต่ชาวบ้านส่วนมากจะไม่มีเงิน

นายโยธิน นิยมพันธุ์ อายุ67 ปี ชาวบ้าน หมู่15 ต.อิสาน อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หนึ่งใน 35 คนที่ถูกศาลตัดสินให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้อยากให้การรถไฟลดราคาเช่าลง เพราะการคิดค่าเช่าของการรถไฟเขาจะคิดเป็นเดือนไม่ได้คิดเป็นปีมันก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับชาวบ้านที่ส่วนใหญ่ในจำนวน 35 รายนี้จะเป็นคนหาเช้ากินค่ำ จะมีเพียง 5-6 รายในกลุ่มนี้ที่พอมีกำลังจะจ่ายค่าเช่าให้การรถไฟได้ ส่วนหนึ่งก็อยากให้การรถไฟนำนักจิตวิทยามาพูดคุยกับชาวบ้านถึงข้อเท็จจริงเพราะหลายคนยังรับไม่ได้ เชื่อว่าชาวบ้านน่าจะรับได้

#ภูมิภาค-55