คณะการท่องเที่ยวฯ DPU เปิดหลักสูตร “ศิลปะการประกอบอาหาร” ผสมผสานวิทยาศาสตร์ ศิลปะ และธุรกิจ ปั้นเชฟรุ่นใหม่ ครบรส ทั้งศาสตร์และสไตล์ เน้นลงมือทำ สัมผัสประสบการณ์จากตัวจริงในวงการ เชิญเชฟชื่อดังร่วมถ่ายทอดเคล็ดลับ พร้อมโอกาสเติบโตสู่เชฟระดับนานาชาติหรือเจ้าของแบรนด์อาหารในฝัน
วันที่ 14 ต.ค.68 ดร.ยุวรี โชคสวนทรัพย์ คณบดีคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์การบริโภคอาหารของผู้คนไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงเรื่องรสชาติเท่านั้น แต่ยังให้ความใส่ใจในด้านสุขภาพ ประสบการณ์ในการกิน ทั้งบรรยากาศและความสวยงามของจานอาหาร รวมถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่ต้องปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งอาหารท้องถิ่นแบบดั้งเดิม และอาหารที่ผสมผสานเทคนิคสมัยใหม่ ต่างได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลักสูตรศิลปะการประกอบอาหาร ภายใต้คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม DPU เป็นหลักสูตรที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงขึ้นใหม่จากแนวคิด “อาหารเพื่อสุขภาพและความงาม” โดยนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาผนวกกับศิลปศาสตร์และการบริหารธุรกิจ เพื่อสร้างหลักสูตรที่ครอบคลุมทุกมิติ ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมอาหาร การท่องเที่ยวและการโรงแรม ให้สอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภคและตลาดแรงงานในอนาคตมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการ ปลุกศักยภาพ เปลี่ยนอนาคต (Potential Development) ของผู้เรียนให้พร้อมก้าวสู่โลกอาชีพอาหารอย่างมั่นใจ

คณบดีคณะการท่องเที่ยวฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักสูตรศิลปะการประกอบอาหาร เน้นการผลิตเชฟที่มีความสามารถรอบด้าน ประกอบด้วยเนื้อหา 3 เสาหลักสำคัญ ได้แก่ 1.วิทยาศาสตร์อาหารและโภชนาการ ให้ความรู้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์อาหาร โภชนาการ และการจัดการกับภาวะแพ้อาหาร การสังเกตอาการแพ้และวิธีรับมือเบื้องต้น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในยุคที่ผู้คนมีความหลากหลายในการบริโภคอาหาร 2.ทักษะการประกอบอาหารหลากหลายวัฒนธรรม ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้การทำอาหารจากทั่วโลก และครอบคลุมไปถึงการสร้างสรรค์เมนูอาหารที่มีเอกลักษณ์ระดับ Chef's Table และ Fine Dining เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาสามารถก้าวเข้าอุตสาหกรรมอาหารและโรงแรมในระดับนานาชาติ หรือเป็นผู้ประกอบการเองได้ในอนาคต และ 3.การออกแบบอาหาร สอนการจัดจานอาหารคาวและหวานให้สวยงามน่าสนใจ และเทคนิคการตกแต่งต่าง ๆ รวมถึงการถ่ายภาพอาหารและการนำเสนอผลงานได้อย่างมืออาชีพ
“นอกเหนือจากเนื้อหาหลักสูตรที่ครอบคลุมทุกมิติ DPUทยังมีเครือข่ายความร่วมมือกับบุคลากรและองค์กรในอุตสาหกรรมอาหารและการโรงแรมอย่างกว้างขวาง โดยเชิญเชฟชื่อดัง ผู้เชี่ยวชาญจากธุรกิจจัดเลี้ยงและบริษัทอุปกรณ์เครื่องครัว มาร่วมเป็นวิทยากร ถ่ายทอดทั้งองค์ความรู้และประสบการณ์จากการทำงานจริง อีกทั้งผู้บริหารมหาวิทยาลัยยังมีนโยบายสนับสนุนให้นักศึกษาเข้าร่วมการแข่งขันและเวิร์กช็อประดับประเทศและนานาชาติ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และโปรไฟล์ที่โดดเด่นสำหรับการต่อยอดในอนาคต” ดร.ยุวรี กล่าวพร้อมเสริมว่า เมื่อสำเร็จการศึกษา นักศึกษาจะได้รับปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิต และมีโอกาสประกอบอาชีพได้อย่างหลากหลาย ซึ่งหลายประเทศยังขาดแคลนเชฟมืออาชีพอยู่ เช่น ออสเตรเลีย จึงนับเป็นโอกาสสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาที่มีทักษะภาษาอังกฤษ เพราะสามารถต่อยอดสู่ตลาดแรงงานต่างประเทศได้ อีกทั้งเชฟยังเป็นหนึ่งในสายอาชีพที่สร้างรายได้สูง โดยขึ้นอยู่กับความสามารถและประสบการณ์ของแต่ละคน ซึ่ง DPU มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนทุกคนมีศักยภาพ ทั้งในด้านความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการสื่อสาร เพื่อเติบโตอย่างมืออาชีพในสายงานอาหารระดับโลก

ด้านอาจารย์ธีราพัทธ์ ชมชื่นจิตต์สิน หัวหน้าหลักสูตรปริญญาตรี สาขาวิชาศิลปะการประกอบอาหาร คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กล่าวว่า หลักสูตรศิลปะการประกอบอาหาร เป็นหลักสูตรที่เน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง เพื่อสร้างเชฟมืออาชีพที่มีความเข้าใจในศาสตร์และศิลป์แห่งการทำอาหารอย่างรอบด้าน ครอบคลุมทั้งอาหารไทย อาหารตะวันตก อาหารเอเชีย อาหารยุคใหม่ รวมถึงการจัดแต่งอาหาร เครื่องดื่ม และเบเกอรี่ พร้อมทั้งบูรณาการองค์ความรู้ด้านการออกแบบ การจัดจาน การถ่ายภาพ และการสร้างเรื่องราว (Storytelling) เพื่อให้นักศึกษาสามารถนำเสนออาหารได้อย่างสร้างสรรค์และมีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมุ่งพัฒนาศักยภาพผู้เรียน ในด้านการบริหารจัดการร้านอาหาร เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นผู้ประกอบการในอนาคต โดยหลักสูตรเน้นการลงมือปฏิบัติตั้งแต่ชั้นปีแรก การศึกษาดูงานภายนอก และการเรียนรู้จากเชฟชื่อดังระดับประเทศที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์จริง

อาจารย์ธีราพัทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า DPU ได้ปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยและสอดรับกับเทรนด์ของผู้บริโภคและตลาดแรงงานในอนาคต โดยเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับการถ่ายภาพอาหาร การสื่อสาร และการสร้างแบรนด์ผ่านเรื่องราว เพื่อให้นักศึกษามีทักษะครบทั้งเชิงเทคนิคและเชิงสร้างสรรค์ ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถประกอบอาชีพได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเชฟในโรงแรมหรือภัตตาคาร เจ้าของธุรกิจอาหาร นักรีวิวอาหาร ฟู้ดสไตลิสต์ ที่ปรึกษาร้านอาหาร หรือครูสอนทำอาหาร ทั้งยังมีความได้เปรียบในตลาดแรงงานจากพื้นฐานทักษะที่แข็งแกร่งและประสบการณ์จริงตลอดหลักสูตร ซึ่งช่วยให้บัณฑิตพร้อมก้าวสู่สายอาชีพในอุตสาหกรรมอาหาร การท่องเที่ยวและการโรงแรมอย่างมั่นใจ
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ https://www.dpu.ac.th/th/faculty-of-tourism-and-hospitality