วันที่ 14 ต.ค.2568 เวลา 09.35 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 156 เพิ่มเติมกรณีที่รัฐสภาต้องมีการประชุมร่วมกันและเพิ่มหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้ง 3 ร่าง ของพรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย
โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ชี้แจงหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของพรรคประชาชนว่า จะกำหนดให้มีจำนวนผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ 135คน ประกอบด้วย 1.คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 35คน โดยให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเลือกมาจากระบบบัญชีรายชื่อที่ผู้สมัครรวมกันเป็นกลุ่มบุคคลตั้งแต่ 17-70คน ใช้เขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง โดยให้ประชาชนเลือกมา 70คน จากนั้นส่งให้รัฐสภาคัดเลือกเหลือ 35คน
2.สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ 100คน มีหน้าที่รับฟังความเห็นจากประชาชน ส่งเนื้อหาให้กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ มาจากการเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยให้แต่ละจังหวัดมีสมาชิกสภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ 1-5คน ตามจำนวนประชากร ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง ร่างรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนมีจุดแข็งคือ กำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด โดยไม่ขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และกำหนดเนื้อหารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้รับรองความเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้ และให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย

“หลักการสำคัญที่เราตัดสินใจร่วมกันวันนี้ต้องการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ผมย้ำว่าแม้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะไม่แก้ปัญหาได้ทั้งหมด แต่รัฐธรรมนูญก็เปรียบเหมือนกับอากาศ เป็นอะไรที่อาจจะล่องหน อาจจับต้องได้ยาก แต่ส่งผลกระทบต่อเราได้ทุกวินาที ถ้ารัฐธรรมนูญและอากาศดี บริสทุธิ์ แน่นอนไม่ใช่การค้าขายจะดีขึ้นทันที หรือเศรษฐกิจจะดีขึ้นทันที แต่ถ้ารัฐธรรมนูญและอากาศเป็นพิษจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพในการทำมาหากินของเราแน่นอน และศักยภาพของประเทศในการแข่งขันกับโลก” นายพริษฐ์ กล่าว

ด้านนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคภูมิใจไทยระบุว่า พรรคภูมิใจไทยทำตามเงื่อนไขข้อตกลงเอ็มโอเอเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคภูมิใจไทยมีจุดมุ่งหมาย 4 ด้านคือ 1.เข้าใจง่าย 2.ทำได้จริง 3.ไม่สร้างความขัดแย้งรอบใหม่ 4.ไม่ขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดให้มีจำนวนผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ 99คน แยกเป็น 2ประเภทคือ 1.ส.ส.ร.จังหวัด 77คน 2.ส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 22คน จากการภาควิชาการ ภาคนิติศาสตร์ 7คน ด้านรัฐศาสตร์ 7คน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน 8คน ให้ผู้ประสงค์จะเป็นส.ส.ร.จังหวัด และส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ยื่นสมัครเป็นส.ส.ร.ต่อกกต.
เมื่อกกต.ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเสร็จสิ้นแล้ว ให้ส่งรายชื่อผู้สมัครทั้งหมดไปยังประธานรัฐสภา เพื่อเปิดประชุมร่วมรัฐสภา ลงคะแนนคัดเลือกส.ส.ร.จังหวัดๆละ 1คน และส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 22คน รวม 99 คน ส่วนกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ มี 45คน มาจากส.ส.ร.30 คน และคนนอกที่มีความรู้ ความสามารถ 15คน มีเงื่อนไขกำหนดให้ร่างรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ หรือการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามหมวด 1 และหมวด 2 จะกระทำมิได้
นายกรวีร์ กล่าวว่า ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนมีความสุ่มเสี่ยงขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมีการให้ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนในเบื้องต้นก่อน จึงให้รัฐสภาไปคัดเลือกอีกที อาจขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่ให้มีการเลือกตั้งส.ส.ร.โดยตรงจากประชาชน รวมถึงไม่ระบุชัดเจนจะไม่แก้ไขหมวด 1และหมวด 2 รัฐธรรมนูญปี 2560 โดยเฉพาะร่างพรรคประชาชนมีความซับซ้อน และไม่กำหนดให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ มีแค่กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ 35 คน ที่มีหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ แต่ที่มาซับซ้อน เข้าใจยาก ขณะที่สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีหน้าที่แค่รับฟังความเห็นประชาชน ไม่มีอำนาจเขียนรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่แค่ให้คำปรึกษา การเลือกกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ และสภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ
“ พรรคประชาชนเสี่ยงขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมีกระบวนการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน เป็นห่วงถ้าตีความแบบศรีธนญชัยเข้าข้างตัวเอง จะเสี่ยงให้ความพยายามแก้รัฐธรรมนูญล้มเหลวอีก แม้พรรคภูมิใจไทยจะรับหลักการทุกร่าง แต่ร่างหลักอยากให้ใช้ของพรรคภูมิใจไทย การแก้รัฐธรรมนูญต้องจริงใจ อย่าเพ้อฝันมาก มองโลกตามความเป็นจริง มั่นใจร่างพรรคภูมิใจไทยเป็นกุญแจไปสู่ความฝันร่วมกันได้ เพราะเข้าใจง่าย ทำได้จริง ไม่สร้างความขัดแย้ง และไม่ขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เป็นความสำเร็จที่ทำได้ ไม่ใช่แค่ได้ทำ” นายกรวีร์ กล่าว

ขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ชี้แจงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคเพื่อไทยว่า เหตุที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญปี2560 เพราะเป็นผลพวงจากการรัฐประหาร แม้จะระบุเป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง แต่มีบทบัญญัติลงโทษนักการเมืองให้พ้นหน้าที่ไม่ชัดเจน โดยมาจากการตีความของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเอานายกฯออกจากตำแหน่ง ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคเพื่อไทย ให้มีผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ 151คน มาจาก1.ส.ส.ร.จังหวัด 100คน มาจากการเลือกของทั้งประเทศรวม 300คน ส่งให้รัฐสภาคัดเลือกเหลือ 100คน 2.ส.ส.ร.จากการคัดเลือก 51คน มาจากการเสนอชื่อของสภาผู้แทนราษฎรและครม. ขณะที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มี 27คน แบ่งเป็นเลือกจากส.ส.ร.14คน และเลือกจากผู้เชี่ยวชาญด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ 13 คน เมื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จให้ส่งมายังรัฐสภาเห็นชอบ
“ขอยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีเจตนาแก้หมวด 1และหมวด2 เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 255 ระบุชัดเจนว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และห้ามเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ กำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว หวังว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของทั้ง 3พรรค จะได้รับพิจารณาเห็นชอบในวาระรับหลักการ” นายชูศักดิ์ กล่าว