วันที่ 14 ตุลาคม 2568 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีที่ นายกิตติพงศ์ รวยฟูพันธ์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตทุ่งครุ ได้เสนอให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) เร่งดำเนินการยกระดับการใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์ในหน่วยงานสังกัด กทม. และเพิ่มมาตรการป้องกันความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ข้อเสนอดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากมีการตรวจพบปัญหาการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ในวงกว้าง ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีและอาจกระทบต่อความมั่นคงของข้อมูลภาครัฐอย่างร้ายแรง
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครระบุว่า สำนักดิจิทัลกรุงเทพมหานคร (สดท.) ได้ดำเนินการยกระดับประสิทธิภาพในการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ซอฟต์แวร์ (Software) ที่ถูกลิขสิทธิ์ และได้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยด้านฐานข้อมูลของหน่วยงาน กทม. แล้ว โดย สดท. ได้ดำเนินการเกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศดิจิทัลและการส่งเสริมการใช้ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม ดังนี้ 1. จัดทำหนังสือแจ้งหน่วยงานกรุงเทพมหานครให้ใช้งานซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์ 2. จัดทำแนวทางการจัดหาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาและแนวทางการปฏิบัติการจัดหาระบบสารสนเทศ เทคโนโลยีดิจิทัล และครุภัณฑ์ด้านคอมพิวเตอร์ของกรุงเทพมหานคร ปี 2568 พร้อมเวียนหนังสือให้หน่วยงานในสังกัดทราบ และ 3. จัดหาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ (โปรแกรมจัดการสำนักงาน) เพื่อให้ทุกหน่วยงานของ กทม. ได้ใช้งาน
นอกจากมาตรการเร่งด่วนแล้ว สดท. ยังได้จัดทำโครงการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ โดยมีกำหนดจะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2570 โครงการที่สำคัญประกอบด้วย โครงการระบบบริหารจัดการการใช้งานซอฟต์แวร์ร่วมของ กทม. และกิจกรรมส่งเสริมการลดค่าใช้จ่ายด้าน License ซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์
ขณะเดียวกัน การเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยฐานข้อมูลของหน่วยงาน กทม. ก็ถูกให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยได้กำหนดมาตรการป้องกันความปลอดภัยด้านฐานข้อมูลและระบบเครือข่าย กทม. ซึ่งกำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานที่เข้าใช้งานระบบจะต้องมีการกำหนดรหัสผ่าน และยังมีมาตรการป้องกันความปลอดภัยข้อมูลของ กทม. ที่กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องควรสำรองข้อมูลสม่ำเสมอ และบันทึกในสื่อต่างประเภทกัน พร้อมจัดทำวงรอบการสำรองข้อมูลเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายและมีข้อมูลต้นฉบับ เพื่อให้สามารถ Recovery ข้อมูลได้ทันที
เพื่อเป็นการยกระดับประสิทธิภาพของ สดท. ในการส่งเสริมการใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์และเพิ่มมาตรการด้านฐานข้อมูล จึงมีการดำเนินการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และการตระหนักถึงการใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์สำหรับการปฏิบัติงานให้กับเจ้าหน้าที่ ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ดิจิทัล และระบบเรียนรู้ e-learning รวมทั้งได้กำหนดนโยบายและมาตรฐานกลางด้านซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานวิชาชีพของแต่ละสายงาน เพื่อให้ทุกหน่วยงานมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนและมีความปลอดภัยของข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานในแต่ละสายงานที่มีความต้องการใช้งานซอฟต์แวร์ที่แตกต่างกัน
ในท้ายที่สุด สดท. ได้ดำเนินการสำรวจความต้องการซอฟต์แวร์จากทุกสำนักงานเขตและทุกสำนัก เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์ เพื่อขอรับสิทธิใช้งานในราคาที่ถูกลง และพร้อมจะผลักดันให้มีการใช้ฟรีแวร์หรือโอเพนซอร์ส (Open Source) ให้มากขึ้นในอนาคต