ชื่อของ “กัน จอมพลัง” กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ จากชายหนุ่มผู้ลุกขึ้นมาช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก จนถูกขนานนามว่า “ผู้พิทักษ์เหยื่อ” บนโซเชียลมีเดีย ก่อนจะขยายบทบาทจากนักต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสังคม สู่การอาสาอยู่แนวหน้าในพื้นที่ชายแดน เพื่อปกป้องความสงบและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
จากจุดเริ่มต้นเพียงคนธรรมดาที่ไม่อาจทนเห็นความอยุติธรรม "กัน จอมพลัง" ใช้พลังของโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือผลักดันคดีและช่วยเหลือผู้เสียหายหลายกรณี สร้างแรงสั่นสะเทือนในสังคม และกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิด

แต่ล่าสุด เขาได้ก้าวสู่บทบาทใหม่ในพื้นที่ชายแดน ด้วยภารกิจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ รวมถึงการร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคงในการส่งต่อสิ่งของและกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้า
แม้จะต้องเผชิญกับเสียงวิจารณ์และแรงกดดันจากหลายฝ่าย แต่ “กัน จอมพลัง” ยังคงยึดมั่นในแนวทางของตนว่า “ความดีไม่ต้องมีตำแหน่งก็ทำได้” พร้อมยืนยันว่าจะทำหน้าที่เพื่อสังคมต่อไปในทุกพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือ
วีรกรรมของ “กัน จอมพลัง” สามารถแบ่งออกเป็นมิติสำคัญได้หลายด้าน:
1. นักสู้เพื่อเหยื่อความรุนแรงและความไม่เป็นธรรม
“กัน จอมพลัง” มักเข้าช่วยเหลือเคสที่สังคมให้ความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะเหยื่อที่ถูกทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ หรือถูกกลั่นแกล้ง จนไม่มีทางออก อาทิ
·ช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรงในความสัมพันธ์: กรณีการช่วยเหลือนางสาว A ที่ถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกายอย่างทารุณจนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมเปิดโปงพฤติกรรมโหดร้ายเพื่อให้คู่กรณีได้รับโทษตามกฎหมาย
·เป็นปากเสียงให้ผู้ถูกกลั่นแกล้ง: การเข้าช่วยเหลือผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มบุคคลใช้อำนาจหรืออิทธิพลกลั่นแกล้ง ทำร้ายร่างกาย และถ่ายคลิปประจาน ซึ่งเป็นเคสที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในสังคมและนำไปสู่การดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ
·ปัญหารถชนและเงื่อนไขเยียวยา: การเกาะติดช่วยเหลือ โดย “กัน จอมพลัง” ได้ยืนยันที่จะช่วยเหลือผู้เสียหายจนจบเรื่อง และปฏิเสธการรับข้อเสนอที่ไม่เป็นธรรมจากฝ่ายคู่กรณี

2. ปฏิบัติการทวงคืนความยุติธรรมทางสังคม
ไม่จำกัดเพียงเรื่องส่วนตัว วีรกรรมของเขายังครอบคลุมไปถึงการต่อสู้กับกลุ่มที่เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน หรือการใช้อำนาจในทางที่ผิด:
·แฉขบวนการฉ้อโกง: การเปิดโปงพฤติกรรมต่างๆ ที่หลอกลวงเหยื่อหลายราย จนมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ซึ่งวีรกรรมนี้ช่วยให้ประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อได้รับความช่วยเหลือและเป็นการเตือนภัยสังคม
·การจัดการปัญหาข้างบ้านผู้ก่อกวน: การประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดการกับพฤติกรรมของเพื่อนบ้านที่ก่อกวนและสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง

3. ผู้สนับสนุนทหารและภารกิจแนวชายแดน
ในช่วงที่มีประเด็นความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา “กัน จอมพลัง” ได้พลิกบทบาทเป็นผู้สนับสนุนกองทัพและเจ้าหน้าที่แนวหน้าอย่างแข็งขัน ผ่านการระดมทุนและลงพื้นที่จริง
·การสนับสนุนยุทโธปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก: มีการระดมทุนสร้างถนนสำหรับลำเลียงตามแนวชายแดนที่พังมานานกว่า 10 ปี และส่งมอบถังน้ำขนาดใหญ่เพื่อแก้ปัญหาสุขอนามัย
·การสร้างขวัญกำลังใจ: การมอบโดรนสอดแนมที่ทันสมัยให้กับทหารแนวหน้า และการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัย
"กัน จอมพลัง" ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในฐานะนักเคลื่อนไหวทางสังคมที่ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการ "ช่วยสู้" แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในบางประเด็น แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า “วีรกรรม” การช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก ทำให้เขากลายเป็น "ที่พึ่งสุดท้าย" ที่สังคมไทยให้ความสนใจและติดตามอย่างใกล้ชิด