ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันว่า ยังไม่มีแนวคิดจัดตั้ง “กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ” (Sovereign Wealth Fund: SWF) โดยระบุชัดว่า การนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมาใช้ตั้งกองทุนดังกล่าว “ไม่ช่วยเรื่องค่าเงินบาท” และไม่ส่งผลเชิงบวกต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวคิดการนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมาจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่ง ไม่ใช่แนวทางที่ ธปท. เห็นว่าจำเป็นหรือเหมาะสมในเวลานี้ เพราะ ทุนสำรองฯ มีไว้เพื่อหนุนหลังธนบัตรที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทย และเป็นกลไกสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทและระบบการเงินในภาพรวม
“ตอนนี้เรายังไม่มีแนวคิดจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่ง หรือในอนาคตก็ยังคงไม่มีแนวคิดนี้ เพราะการตั้งกองทุนไม่ได้ช่วยให้เงินบาทอ่อนค่าลง และไม่ได้เป็นเครื่องมือแก้ปัญหาอัตราแลกเปลี่ยน” นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธปท. กล่าว
* ทุนสำรองฯ เป็นเงินตราต่างประเทศอยู่แล้ว
นายวิทัยระบุว่า เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยส่วนใหญ่เป็น เงินสกุลต่างประเทศและทองคำ ที่กระจายอยู่ในหลายสกุลเงิน เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ยูโร เยน และหยวน โดยมีการบริหารจัดการสัดส่วนอย่างรอบคอบและเป็นระบบอยู่แล้ว
ดังนั้น การจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งจากทุนสำรองฯ จะไม่ส่งผลต่อค่าเงินบาทโดยตรง เนื่องจากโครงสร้างของทุนสำรองฯ เป็นสินทรัพย์สกุลเงินต่างประเทศ ไม่ได้อยู่ในรูปของเงินบาท
ทั้งนี้ หากจะมีการจัดตั้งกองทุนลักษณะดังกล่าวเพื่อแสวงหาผลตอบแทนเพิ่มเติม ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึง “วัตถุประสงค์ ผลกระทบต่อเสถียรภาพ และกรอบกฎหมาย” ที่เกี่ยวข้องก่อน
* ทุนสำรองระหว่างประเทศไทยยังแข็งแกร่ง
ปัจจุบัน ธปท. มีทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาค ถือเป็น กันชนสำคัญต่อความผันผวนของค่าเงินและภาวะเศรษฐกิจโลก โดยมีการบริหารจัดการตามหลักสากลและมีการปรับพอร์ตลงทุนให้เหมาะสมตามภาวะตลาดอยู่เสมอ
นายวิทัยย้ำว่า “การจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งไม่ใช่ทางออกของปัญหาค่าเงินบาท แต่การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคและความเชื่อมั่นของนักลงทุน คือสิ่งที่สำคัญกว่า”
#ธปท #แบงก์ชาติ #กองทุนความมั่งคั่ง #SovereignWealthFund #ค่าเงินบาท #ทุนสำรองระหว่างประเทศ #วิทัยรัตนากร #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าวการเงิน #เงินบาทแข็ง #เสถียรภาพการเงิน #ข่าววันนี้