วันที่ 11 ต.ค.68 แม่ทัพภาคที่ 2 และคณะได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมจัดตั้งชุดหมอเดินเท้าให้บริการทางการแพทย์ และเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินใน 12 อำเภอ 68 ตำบล 431 หมู่บ้าน 15,595 ครัวเรือน ต้องอพยพหนีน้ำท่วมบ้านที่พักอาศัย 1,063 ครอบครัว จำนวน 3,374 คน พื้นที่การเกษตรที่คาดได้รับความเสียหาย 102,000 ไร่เศษ

ที่สถานีวัดน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี พลโทวีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 และคณะได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รายงานสถานการณ์น้ำ สถานการณ์อุทกภัย และปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว จัดตั้งชุดหมอเดินเท้าให้บริการทางการแพทย์ และเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ลงพื้นที่ซอยชลประทานท่าบ่อ ให้กำลังใจกับประชาชนผู้ประสบภัย พร้อมมอบถุงยังชีพ ชุดยาสามัญประจำบ้าน จากกองทัพบก ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ปลายสุดของแม่น้ำสายสำคัญ 3 สาย ได้แก่ แม่น้ำโขง แม่น้ำมูล และแม่น้ำชี รวมทั้งลำน้ำสาขาต่างๆ ที่ไหลมารวมกันที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุ"คาจิกิ" พายุ"หนองฟ้า" พายุ"บัวลอย" และร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย จึงประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินใน 12 อำเภอ 68 ตำบล 431 หมู่บ้าน 15,595 ครัวเรือน ต้องอพยพหนีน้ำท่วมบ้านที่พักอาศัย 1,063 ครอบครัว จำนวน 3,374 คน พื้นที่การเกษตรที่คาดได้รับความเสียหาย 102,000 ไร่เศษ
ภูมิภาค-67