สำนักงานประกันสังคม (สปส.) คาดว่ากระบวนการปรับปรุง สูตรบำนาญชราภาพใหม่ หรือ “สูตร CARE” จะแล้วเสร็จภายในช่วง เดือนธันวาคม 2568 – มกราคม 2569 หลังสิ้นสุดขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ โดยคาดว่าจะเริ่มนำมาใช้ได้ในช่วงต้นปี 2569 พร้อมเดินหน้า ปรับเพิ่มเพดานค่าจ้างสูงสุด จากปัจจุบัน 15,000 บาท เป็น 17,500 บาทในปี 2569 ก่อนจะเพิ่มเป็น 20,000 บาทในปี 2570 และ 23,000 บาทในปี 2571 โดยยังคงอัตราเงินสมทบเดิมที่ 5% ซึ่งจะทำให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างต้องจ่ายสมทบเพิ่มจากเดิมที่ฐานค่าจ้าง 15,000 บาทต่อเดือน หรือ 750 บาท
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 (เฉพาะกิจ) เปิดเผยว่า การปรับปรุงสูตรบำนาญชราภาพได้มีการศึกษาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 โดยคณะกรรมการประกันสังคมที่มาจากการเลือกตั้งได้ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และได้นำข้อเสนอเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ก่อนเสนอเข้าสู่คณะกรรมการประกันสังคม กระทรวงแรงงาน และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อออกเป็นกฎกระทรวงประกาศใช้
นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี หนึ่งในกรรมการประกันสังคม ผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน เปิดเผยว่า ปัจจุบันกองทุนประกันสังคมจ่ายเงินบำนาญกว่า 20,000 ล้านบาทต่อปี ให้กับผู้ประกันตนประมาณ 800,000 คน โดยในจำนวนนี้ราว 570,000 คนได้รับบำนาญเป็นธรรมตามเงินสมทบที่จ่ายไป แต่มีผู้ประกันตนกว่า 200,000 คนที่ได้รับบำนาญไม่เป็นธรรม เพราะจ่ายเงินสมทบสูงกว่าเงินบำนาญที่ได้รับ จึงเป็นที่มาของการปรับ สูตรบำนาญใหม่ “CARE” เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรมมากขึ้น
* เปรียบเทียบ “สูตรใหม่ vs สูตรเดิม”
อัตราบำนาญ: เริ่มต้นที่ 20% ของค่าจ้าง ทั้งสูตรเก่าและใหม่
ส่วนเพิ่มเมื่อส่งเงินสมทบเกิน 180 เดือน ยังคงที่ 1.5% ต่อปี
กรณีไม่ครบปี คิดเพิ่ม 0.125% ต่อเดือน
ฐานค่าจ้าง:
สูตร CARE (ใหม่): คำนวณจากรายได้เฉลี่ยทุกเดือนที่ส่งเงินสมทบ และปรับเป็นค่าเงินปัจจุบัน
สูตรเดิม: คำนวณเฉลี่ยจาก 60 เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ
สำหรับผู้ใกล้เกษียณ จะมีช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี (พ.ศ. 2569–2573) โดยรัฐจะเปรียบเทียบเงินบำนาญจากทั้งสองสูตร หากสูตรใหม่ให้ผลน้อยกว่า จะได้รับการชดเชยส่วนต่างตามสัดส่วน ดังนี้
ผู้เกษียณปี 2569 ชดเชย 100% ตลอดชีวิต
ปี 2570 ชดเชย 80%
ปี 2571 ชดเชย 60%
ปี 2572 ชดเชย 40%
ปี 2573 ชดเชย 20%
นายษัษฐรัมย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับสูตรใหม่นี้จะทำให้ในอีก 10 ปีข้างหน้า มีผู้รับบำนาญกว่า 3 ล้านคนได้รับเงินเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7–8% ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความเท่าเทียมในระบบประกันสังคม และยืนยันว่า ไม่มีผู้ใดได้รับเงินบำนาญน้อยลง
นางสาวบุปผา เรืองสุด เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า การเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นถือเป็นโอกาสสำคัญในการรวบรวมข้อคิดเห็นจากผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ 39 นายจ้าง รวมถึงผู้ที่รอรับสิทธิ์บำนาญ เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกันในการปรับสูตรใหม่ “CARE” ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน
ผลจากการประชุมในครั้งนี้จะถูกนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพ เพื่อพิจารณาปรับปรุงแก้ไข และจัดทำกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอเข้าสู่กระบวนการอนุมัติและประกาศใช้ในลำดับต่อไป
#สูตรบำนาญCARE #ประกันสังคม #สปส #บำนาญชราภาพ #อนุสรณ์ธรรมใจ #ษัษฐรัมย์ธรรมบุษดี #บุปผาเรืองสุด #มาตรา33 #มาตรา39 #ผู้ประกันตน #ข่าวเศรษฐกิจ #แรงงานไทย #ครม #ข่าววันนี้