กคช. ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง! เดินหน้าช่วยครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ พักหนี้ – ฟื้นฟู – เยียวยาผู้ประสบภัย
การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เดินหน้ามาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบางทั่วประเทศ ทั้งในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม และพื้นที่ริมชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเสริมสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตให้กับลูกบ้านการเคหะแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2568 ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนที่พัดถล่มหลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน รวมถึงผู้พักอาศัยในโครงการของการเคหะแห่งชาติ
การเคหะแห่งชาติได้เร่งให้ความช่วยเหลือพื้นที่โครงการที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดน่าน แพร่ และสุโขทัย ผ่านการมอบถุงยังชีพ น้ำดื่ม และอุปกรณ์ทำความสะอาด พร้อมลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้สูงอายุ ผู้พิการ และครอบครัวผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงวิกฤต และหลังจากระดับน้ำลด การเคหะแห่งชาติได้ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและชุมชนจิตอาสาในพื้นที่จัดกิจกรรม “Big Cleaning Day” เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ส่วนกลางและสภาพแวดล้อมให้กลับมาน่าอยู่ โดยเบื้องต้นการช่วยเหลือดูแลพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ใช้งบประมาณช่วยเหลือประมาณ 250,000 บาท

พร้อมกันนี้ การเคหะแห่งชาติยังได้ออกมาตรการพักชำระค่าเช่าซื้อเป็นระยะเวลา 3 เดือน (กันยายน - พฤศจิกายน 2568) และยกเว้นค่าปรับสำหรับผู้ที่มาชำระหนี้ค้างในช่วงเวลาเดียวกัน โดยมีผู้ได้รับสิทธิ์รวมทั้งสิ้น 30 ราย รวมวงเงินช่วยเหลือในการพักชำระหนี้ประมาณ 600,000 บาท เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของลูกบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
นอกจากนี้ จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ตราด จันทบุรี และสระแก้ว โดยออกมาตรการพักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 3 เดือน (1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2568) สำหรับลูกค้ากลุ่มอาคารเช่าและอาคารเช่าซื้อ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกบ้านที่ได้รับผลกระทบ ในส่วนของจังหวัดศรีสะเกษ มีลูกบ้านเข้าร่วมมาตรการรวมทั้งสิ้น 91 ราย ได้แก่ โครงการบ้านเอื้ออาทรศรีสะเกษกันทรลักษ์ จำนวน 89 ราย และโครงการบ้านเอื้ออาทรศรีสะเกษกันทรารมย์ จำนวน 2 ราย คิดเป็นมูลค่าการพักชำระหนี้รวมประมาณ 750,000 บาท พร้อมกันนี้ การเคหะแห่งชาติยังได้จัดกิจกรรมมอบ “ถุงยังชีพ” เพื่อช่วยเหลือและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ลูกบ้าน กลุ่มเปราะบาง และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่โครงการ

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า “การเคหะแห่งชาติจะอยู่เคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติหรือเหตุการณ์ความไม่สงบ เพื่อให้ลูกบ้านสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”
การเคหะแห่งชาติยืนยันเจตนารมณ์ในการเดินหน้าฟื้นฟูและพัฒนาชุมชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “การเคหะแห่งชาติจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และ พม.ใกล้คุณ