วันที่ 10 ต.ค.68 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Yong Poovorawan" เรื่อง ประเทศไทยยังนับถือกระดาษ ระบุว่า ผมไม่แปลกเลยว่าทำไมประเทศไทยสมัครเข้าสู่ ประเทศ OECD (The Organisation for Economic Co-operation and Development) แล้วยังไม่ได้ เพราะประเทศไทยยังนับถือกระดาษ ไม่ได้ดูความสามารถของบุคคล
ทำไมทุกคนจึงไขว่คว้าหากระดาษ เรามีปริญญาเอกที่มีกระดาษมากมาย จึงไม่แปลกเพราะทุกคนต้องการ
ผมเอาเรื่องนี้มาเพราะว่า ผมเองเป็นที่ปรึกษาปริญญาเอก ปริญญาโท และมีลูกศิษย์ จบปริญญาเอกมากกว่า 30 คน จนลูกศิษย์ได้เป็นศาสตราจารย์แล้วก็มี และเป็นที่ปรึกษารวมทั้งที่ปรึกษาร่วม มากกว่า 50 คน ไม่นับปริญญาโทนะครับ ที่รับมาตั้งแต่ปี 2540
ผมเองไม่เคยได้ปริญญาเอก จบ แพทย์ศาสตร์บัณฑิต และจบวิชาชีพทางกุมารเวชศาสตร์ ไปต่อที่ประเทศอังกฤษ ก็ไม่สนใจที่จะเอากระดาษ เพราะถ้าเอากระดาษจะต้องเสียปีละ 7,000 ปอนด์
เป็นศาสตราจารย์ สอนมากว่า 40 ปี แต่วันดีคืนดี ในปีนี้ผมรับนิสิตปริญญาเอก ทางหลักสูตรบอกว่าผมไม่สามารถที่จะเป็นที่ปรึกษาปริญญาเอกได้ หรือพูดง่ายๆก็คือว่ารับไม่ได้นั่นเอง เพราะไม่ได้จบปริญญาเอก ไม่มีกระดาษ จึงรับลูกศิษย์ปริญญาเอกไม่ได้ ผมก็แปลกใจว่าที่รับมาแล้วเป็นโมฆะไหม ทางหลักสูตรบอกว่าด้วยกฎเกณฑ์ของกระทรวง คนที่จะรับเป็นที่ปรึกษาปริญญาเอกได้ จะต้องจบปริญญาเอก ผมเองก็บอกว่าไม่เช่นนั้น ผมก็เอาปริญญาเอกดุษฎีบัณฑิต มาให้แทน เป็นกระดาษปริญญาเอก เรื่องจึงผ่าน และยอมได้ เพราะกระดาษใบเดียว
ผมไม่มีกระดาษ ที่จะบอกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ และก็ไม่เคยสนใจกระดาษเลย
ช่วยกันบอกไปถึงผู้ใหญ่ ให้ที กฎเกณฑ์ก็คือกฎเกณฑ์ แต่ผู้ออกกฎเกณฑ์ผมไม่รู้ว่ามีจุดมุ่งหมายอะไร ถ้าผมไม่มีความสามารถ ผมคงไม่รับลูกศิษย์และมีลูกศิษย์ปริญญาเอกจบมากกว่า 30 คน โดยที่ไม่มีกระดาษปริญญาเอกแม้แต่ใบเดียว
ผมจึงไม่แปลกใจ ว่าทำไมประเทศไทยจึงสมัครเข้าเป็นสมาชิก OECD ไม่ได้ และจนถึงวันนี้ทุกคนแย่งกันเรียนปริญญาเอก เพื่อให้ได้กระดาษมา เราจึงไม่มีวิชาชีพที่มั่นคง สายอาชีวะคงไม่มีใครอยากเรียน เปรียบเสมือนเป็นสายอาชีพ ทุกคนอยากมีกระดาษเพื่อเป็นวิศวกรกันหมด