เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม 2568 ที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 (ฉก.นย.ที่ 182) ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด คณะกรรมาธิการวิสามัญวุฒิสภา นำโดย นายนพดล อินนา ประธานกรรมาธิการฯ ได้เดินทางมาศึกษาดูงานและติดตามสถานการณ์ปัญหาหลักเขตแดนไทย–กัมพูชา ตาม บันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 และ 2544 เพื่อพิจารณาข้อดีข้อเสียของการยกเลิก MOU ดังกล่าว

การเดินทางครั้งนี้ได้รับการต้อนรับจาก นาวาเอกธรรมนูญ วรรณา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด, นายเชิดศักดิ์ ชุ่มนาเสียว นายอำเภอคลองใหญ่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ชายแดน
นายนพดลเปิดเผยว่า เป้าหมายหลักของการลงพื้นที่ครั้งนี้ คือ การเก็บข้อมูลข้อเท็จจริงจากพื้นที่จริงทั้งทางบกและทางทะเล เพื่อประกอบการตัดสินใจของวุฒิสภาเกี่ยวกับ MOU 2543 และ 2544 ที่ไทยและกัมพูชาเคยลงนามร่วมกันเมื่อกว่า 20 ปีก่อน

หลังจากการต้อนรับ ทาง ผบ.ฉก.นย.ตราด ได้บรรยายสรุปสถานการณ์ปัญหาแนวชายแดนด้วยพาวเวอร์พอยต์ พร้อมแผนที่ด้านความมั่นคง แสดงให้เห็นถึงกรณีการละเมิดข้อตกลงใน MOU 43 และ 44 ทั้งในฝั่งจังหวัดจันทบุรีและตราด รวมถึงอธิบายสนธิสัญญาที่ฝรั่งเศสเคยทำกับฝ่ายไทยในการกำหนดเขตแดน
จากนั้น คณะกรรมาธิการได้เดินทางไปยังบริเวณ หลักเขตที่ 73 ซึ่งเป็นจุดที่ยังไม่มีข้อยุติระหว่างไทยกับกัมพูชา โดย ผบ.ฉก.นย.ที่ 182 ได้อธิบายด้วยแผนที่ถึงการรุกล้ำพื้นที่และการประกาศเขตทะเลของกัมพูชาที่ไม่สอดคล้องกับของไทย จนเกิด “พื้นที่ทับซ้อน”

นายนพดลระบุว่า การสำรวจพื้นที่จริงทำให้เห็นภาพชัดเจน โดยเฉพาะการละเมิด ข้อ 5 ของ MOU 43 ซึ่งห้ามเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ – ฝ่ายไทยเคยประท้วงแล้วหลายครั้ง ทั้งนี้คณะกรรมาธิการยืนยันว่า การพิจารณาจะยึดหลัก ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์และนิติวิทยาศาสตร์ โดยจะย้อนดูข้อมูลย้อนหลังไปถึง 242 ปี ครอบคลุมมติคณะรัฐมนตรี, ข้อมูลจากกรมแผนที่ทหาร และเอกสารที่มีชั้นความลับ
นอกจากนี้ ยังมีแผนเชิญบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องในอดีต เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ซึ่งเคยเสนอให้ยกเลิก MOU 44 รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากกองทัพเรือ และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อร่วมให้ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์อย่างรอบด้าน
นายนพดลย้ำว่า คณะกรรมาธิการชุดนี้ ไม่สังกัดพรรคการเมืองใด และจะยึดผลประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นหลัก แม้รายงานฉบับสมบูรณ์ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่กรรมาธิการจะเริ่มรายงาน ความคืบหน้าต่อวุฒิสภาในช่วงปลายเดือนตุลาคม (คาดประมาณวันที่ 27–28 ตุลาคม) ในการประชุมแบบเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบข้อมูลพร้อมกับสมาชิกรัฐสภา
#ภูมิภาค-24