วันที่ 9 ต.ค. 2568 เวลาประมาณ 12.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 5 ม. 19 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยเป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างเป็นปูน ชั้นบนเป็นไม้ โดยไฟได้ลุกไหม้จากชั้นบนซึ่งเป็นไม้ ก่อนจะลุกลามไหม้หมดทั้งหลัง โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของ คุณยาย ดี แก้วอำพันธ์ อายุ 75 ปี ปกติบ้านหลังนี้จะอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน คือตัวคุณยาย ลูกสาว ลูกเขย และหลานชายอีก 1 คน ขณะเกิดเหตุ ลูกสาวและลูกเขยไปทำงาน คุณยาย ดี อยู่บ้านกับหลานชายวัย 15 ปี 1 คน ทั้งสองคนอยู่ชั้นล่างของบ้าน ชั้นบนไม่มีคนอยู่ โดยคุณยายนอนฟังวิทยุอยู่เนื่องจากคุณยายอายุมากแล้วเดินเหินก็ลำบาก ส่วนหลานชายก็นั่งเล่นอยู่ จนกระทั่งเพื่อนบ้านเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นบริเวณ ชั้นบนของบ้าน จึงได้ตะโกนบอกคุณยายและหลาน

ทันทีที่มีเสียงตะโกนเอะอะโวยวายของชาวบ้าน ไฟก็เริ่มโหมแรงขึ้นเนื่องจากเป็นบ้านไม้ทำให้ไฟลุไหม้อย่างรวดเร็วและลามลงมาชั้นล่าง หลานชายจึงวิ่งไปบอกป้าบ้านติดกัน และเป็นลูกสาวอีกคนของยาย ให้มาช่วยกันอุ้มยายออกจากบ้าน ลุกสาวของยายจึงรีบวิ่งเข้ามาอุ้มเอาแม่ออกไปพร้อมกับรีบโทรแจ้งตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน เพื่อประสานแจ้งรถดับเพลิงของ อบต.มาช่วยดับไฟ ขณะที่ชาวบ้านก็พยายามช่วยกันเก็บข้าวของออกจากบ้าน แต่ก็เก็บได้ไม่เยอะเนื่องจากไฟโหมแรงมากและยังมีถังแก๊สอยู่ในครัวอีกด้วย

เมื่อรถดับเพลิงของ อบต.บักได และ อบต.ตามียง มาถึงไฟได้ไหม้บ้านชั้นบนจนทรุดลงมาหมดแล้ว แต่เปลวเพลิงก็ยังโหมแรงอยู่ จนท.ดับเพลิงช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ไฟจึงสงบลง แต่ไฟก็ได้ไหมบ้านเสียหายไปแล้วทั้งหลัง รวมทั้งทรัพย์สินของมีค่าต่างๆของคุณยายก็ถูกไหม้ไปในกองเพลิงจนหมด
นางทิวากร แก้วอำพันธ์ อายุ 46 ปี ลูกสาว คุณยาย ดี ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกัน เล่าว่า ตอนนั้นตนทำกับข้าวอยู่ในครัวที่บ้านของตน ได้ยินเสียงคนแอะอะโวยวาย แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งหลานชายวิ่งมาบอกว่า ป้าๆบ้านไฟไหม้ ตนก็รีบวิ่งไปปรากฏว่าบ้านของแม่ชั้นบนซึ่งเป็นไม้ไฟได้ลามไหม้ที่นอน เสื้อผ้า ไปทั่วบ้านแล้ว มันเอาอะไรไม่ทันแล้ว ก็ได้แต่แบกเอาแม่ขึ้นหลังแล้วบอกหลานให้รีบออกมา พร้อมกับรีบโทรหาผู้ใหญ่บ้าน โทรหาตำรวจ เพื่อจะให้ทุกคนมาช่วย แต่เนื่องจากเป็นบ้านไม้ไฟจึงลุกลามและไหม้เร็วมาก เอาอะไรออกมาไม่ทันเลย โดยเฉพาะผ้าไมของแม่ และเอกสารสำคัญต่างๆไหม้หมดเลย ไม่เหลืออะไรเลย
คุณยาย ดี แก้วอำพันธ์ อายุ 75 ปี เจ้าของบ้านเล่าว่า ตอนนั้นยายนอนฟังวิทยุอยู่ชั้นล่างของบ้าน หลานก็ตะโกนบอกว่ายายๆไฟไหม้ๆ ยายก็ลุกขึ้นมามองดู พอดีกับลูกสาวก็วิ่งเข้าไปอุ้มเอายายออกมา โดยยายไม่ได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บใดๆ ส่วนของมีค่าในบ้านที่ถูกไฟไหม้ไปก็หลายอย่าง โดยเฉพาะผ้าไหมที่ยายเก็บสะสมไว้เกือบๆ 20 ผืน เงินประมาณ 2,000 บาท เอกสารสำคัญต่างๆ รวมทั้ง เครื่องครัว เสื้อผ้า ที่นอน ไหม้หมดเลย ไม่เหลืออะไรเลย
นาย ชัยมงคล ใจสนธิ์ นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยชำนาญการ อบต.บักได เจ้าของพื้นที่ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ในกรณีที่ประชาชนประสบเหตุอัคคีภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุและไฟไหม้ทั้หมดงหลัง ไม่ใช่การวางเพลิง ทาง อบต.บักได ก็จะมีเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ประมาณ 49,500 บาท รวมทั้งจะมีในส่วนของค่าครองชีพชั่วคราว และอื่นๆอีก นอกจากนั้นจาก ทาง อบต.ก็จะรายงานไปทางอำเภอพนมดงรัก และจังหวัดสุรินทร์ จะมีในส่วนการช่วยเหลือจาก ปภ.จังหวัด พม.จังหวัด และทางกาชาดจังหวัดสุรินทร์ รวมถึงมูลนิธิฯและองค์กรการกุศลต่างๆอีก เพื่อขอความช่วยเหลือในหลายๆด้าน ในส่วนของเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 49,500 บาท ทาง อบต.สามารถจ่ายให้ได้ภายใน 15-20 วัน
สำหรับสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากไฟได้ลุกไหม้จากชั้นบนของบ้าน และขณะเกิดเหตุที่ชั้นบนของบ้านไม่มีใครอยู่เลย
#ภูมิภาค-62