รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต
โลกวันนี้เทคโนโลยีและความรู้เกิดใหม่ เปลี่ยนแปลง และก้าวเดินอย่างรวดเร็ว บทบาทของงานที่มนุษย์ทำถูกตั้งคำถาม การศึกษาซึ่งเคยเป็นระบบที่นิ่ง มีเส้นแบ่งระหว่าง “ผู้สอน–ผู้เรียน” และเวลาการเรียนรู้ที่เฉพาะเจาะจง ก็ถูกท้าทายและ “ปั่นเขย่า” โดยแนวคิดที่ว่า การเรียนรู้ไม่ควรถูกจำกัดอยู่ในกรอบเดิม แต่ควรหลอมรวมเข้ากับชีวิตของผู้คนในทุกช่วงเวลา แนวคิด Power of Next Learning Ecosystem ถูกหยิบขึ้นมาเป็นแนวทางสำคัญสำหรับ “ระบบนิเวศการเรียนรู้สู่ทศวรรษหน้า” ที่มุ่งให้การศึกษาเป็นสิ่งที่มีชีวิตชีวา มีพลัง และเติบโต
เมื่อพูดถึง “ระบบนิเวศการเรียนรู้ (Learning Ecosystem)” หมายถึง เครือข่ายของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและทรัพยากรการเรียนรู้ที่ประกอบกันเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา อาจารย์ เทคโนโลยี แพลตฟอร์ม สื่อ ชุมชน และพันธมิตรภายนอก แนวคิด “Next” บ่งบอกถึงระบบนิเวศยุคใหม่ ที่เชื่อมโยงทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกัน สามารถปรับตัว ยืดหยุ่น และใช้ข้อมูล (data) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการสร้างเส้นทางการเรียนรู้เฉพาะบุคคล (personalized) “Power” ที่เติมเข้ามานั้น หมายถึงศักยภาพของระบบนิเวศที่เป็นเครื่องมือที่มีพลังขับเคลื่อนการศึกษาให้ก้าวไปข้างหน้า
ความสำคัญของแนวคิดนี้ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในหลายบริบท อาทิ 1) การเรียนรู้ตลอดชีวิต (lifelong learning) เป็นสิ่งจำเป็นและไม่ใช่ทางเลือกต่อไป เพราะโลกของงาน ความรู้ และสังคมเปลี่ยนแปลงเร็ว การที่บุคคลใดก็ตามสามารถกลับมาเรียนรู้ใหม่ในทุกช่วงชีวิตได้จะเป็นสิ่งที่แยกแยะคนที่อยู่รอดกับคนที่ตกยุค
2) เทคโนโลยีโดยเฉพาะ AI เป็นแรงขับสำคัญของนวัตกรรมการศึกษา ตลาด AI ในการศึกษา (AI in Education) คาดว่าจะเติบโตคิดเป็นมูลค่า 32.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030 (อัตรา CAGR ≈ 31.2 %) ตัวเลขนี้เป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า AI กำลังเข้าไปแทรกอยู่ในการเรียนการสอน ซึ่งปัจจุบันนักเรียนทั่วโลกกว่าร้อยละ 86 ได้ใช้เครื่องมือ AI ในการเรียนหรือช่วยทำงานทางวิชาการ
3) ระบบการศึกษาไทยยังมีความท้าทายในการปรับตัวให้ทันโลกใหม่ แม้จะมีโครงสร้างพื้นฐาน การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และมหาวิทยาลัยจำนวนที่มาก แต่ยังมีช่องว่างด้านทักษะและการบูรณาการกับตลาดงาน OECD เคยชี้ว่าแม้ประเทศไทยลงทุนในระบบการศึกษา แต่ผลตอบแทนกลับคืนยังไม่เต็มศักยภาพ และรัฐบาลไทยเองมีเป้าหมายผลิตกำลังคนที่ทำงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่นตั้งเป้าภายใน 5 ปีผลิตบุคลากรในภาคไฮเทค (เช่น AI, semiconductor, ยานยนต์ไฟฟ้า) จำนวน 280,000 คน แนวคิดระบบนิเวศการเรียนรู้ยุคใหม่อาจกลายเป็นหัวใจของการสร้างคนให้ตรงศักยภาพและตอบโจทย์ความต้องการ
แนวคิด Power of Next Learning Ecosystem จะคงอยู่และรอดต้องอาศัยการลงมือทำ การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบนิเวศ
การเรียนรู้ที่มีพลัง ต้องมี “วิถีขับเคลื่อน” ที่เป็นรูปธรรมและดำเนินการแบบไม่แยกส่วนเชื่อมโยงทั้งระบบเข้าด้วยกัน ตั้งแต่การออกแบบ พัฒนา เชื่อมโยง เสริมพลัง และประเมินผลย้อนกลับ
เริ่มต้นด้วยการ ออกแบบ ต้องตั้งคำถามให้ชัดว่า “มหาวิทยาลัยอยากได้ผู้เรียนแบบไหนในอนาคต” และวางกรอบโครงสร้างของระบบนิเวศที่จะรองรับเป้าหมายนั้น ต่อมาคือการ พัฒนา แพลตฟอร์ม เทคโนโลยี สื่อที่ปรับได้ เช่น AI Chatbot ที่ช่วยตอบคำถามนักศึกษา Dashboard ที่วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียน หรือสื่อ Micro Learning ซึ่งผู้เรียนเข้าถึงและเข้าใช้ได้ทุกเวลาตามความต้องการ ขั้นตอนต่อมาคือ เชื่อมโยง เครือข่ายภายนอก เช่นนำภาคอุตสาหรกรรม ชุมชน โรงเรียน เข้ามามีส่วนร่วมและบทบาทในกระบวนการเรียนรู้ ผ่านโครงการแก้โจทย์จริง (real-world project) หรือการฝึกงานเชิงประสบการณ์ เมื่อองค์ประกอบเชื่อมโยงแล้วต้อง เสริมพลัง (empower) ให้ผู้เรียน ครู และบุคลากรมีความรู้ความสามารถในการใช้ระบบอย่างเต็มที่ ผ่านการอบรมเรื่องเทคโนโลยีดิจิทัล วิธีการใช้ AI อย่างมีจริยธรรม และการวิเคราะห์ข้อมูล และที่สำคัญต้องประเมิน สะท้อน และปรับปรุง (reflect & evolve) โดยใช้ Learning Analytics มาปรับระบบให้ดีขึ้นเป็นวงจรต่อเนื่อง
การนำแนวคิด Power of Next Learning Ecosystem ไปใช้ มหาวิทยาลัยควรดำเนินการสร้างศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้ (Learning Innovation Hub) ที่ทำหน้าที่กรองแนวคิดใหม่ ทดสอบ และกระจายการเรียนรู้ไปทั่วมหาวิทยาลัย รวมถึงการใช้ Dashboard วิเคราะห์พฤติกรรมนักศึกษา เช่น ตรวจเวลาการเข้าใช้งาน คะแนนการบ้าน ความถี่ในการสอบ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนาหลักสูตรให้เหมาะสม นอกจากนี้ การสร้างโครงการที่ให้ภาคีภายนอกเข้ามาร่วมออกโจทย์จะช่วยให้นักศึกษาได้ฝึกทักษะในบริบทของจริง เมื่อมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลางของระบบนิเวศ ไม่ใช่โรงงานผลิตบัณฑิต เมื่อองค์ประกอบทั้งหมดขับเคลื่อนร่วมกัน ระบบนิเวศการเรียนรู้ใหม่จะเป็นสิ่งที่มีชีวิตชีวา มีพลวัต และตอบสนองต่อบริบทใหม่ได้
แน่นอนว่า...โลกไม่เคยรอใคร และการศึกษาก็ไม่ได้มีเส้นชัยที่สิ้นสุด การสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ใหม่ที่มีพลังวันนี้สู่โลกทศวรรษหน้า ก็คือการลงทุนให้กับอนาคตของ “ผู้เรียน” ที่ส่งต่อสู่อนาคตของสังคม ชุมชน ประเทศ และโลกเป็นลูปวนไป ท่านผู้อ่านคิดเห็นประการใดบ้างสะท้อนให้ฟังด้วยครับ...
#สุขุมเฉลยทรัพย์ #มหาวิทยาลัยสวนดุสิต #PowerOfNextLearningEcosystem #ระบบนิเวศการเรียนรู้ #การศึกษาไทย #AIinEducation #LifelongLearning #นวัตกรรมการศึกษา #การเรียนรู้ยุคใหม่ #EdTech