เมื่อวันที่ 8 ต.ค.68 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า จอห์น คลาร์ก (John Clarke), มิเชล เดอโวเรต์ (Michel Devoret) และจอห์น มาร์ตินิส (John Martinis) 3 นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ฝรั่งเศส และอเมริกัน จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้รับการประกาศชื่อเป็นผู้ชนะรางวัล โนเบลสาขาฟิสิกส์ ประจำปี 2025 จากผลงานการทดลองและค้นพบ “อุโมงค์กลศาสตร์ควอนตัมในระดับมหภาค” รวมถึงการหาปริมาณพลังงานเชิงควอนตัมในวงจรไฟฟ้า ซึ่งแสดงให้เห็นการทำงานของฟิสิกส์ควอนตัมอย่างเป็นรูปธรรม และปูทางสู่การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลยุคใหม่ในปัจจุบัน
ผลงานของนักวิทยาศาสตร์ทั้งสามเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 1980 โดยใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างจากวัสดุตัวนำยิ่งยวดในการทดลอง จนสามารถสาธิต “อุโมงค์กลศาสตร์ควอนตัม” และวัดระดับพลังงานเชิงควอนตัมในระบบขนาดเล็กที่สามารถถือได้ด้วยมือ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของวงการฟิสิกส์เชิงควอนตัม
ราชบัณฑิตยสถานวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดน (Royal Swedish Academy of Sciences) ซึ่งเป็นผู้มอบรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ เปิดเผยว่า ผลการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ทั้งสามได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า คุณสมบัติเชิงกลควอนตัมสามารถเกิดขึ้นได้จริงในระดับมหภาค ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในระดับจุลภาคเท่านั้น
ด้าน จอห์น คลาร์ก หนึ่งในผู้ได้รับรางวัล แสดงความดีใจและประหลาดใจอย่างยิ่ง พร้อมระบุว่า “การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของ ‘การประมวลผลควอนตัม’ หรือ Quantum Computing ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของการประมวลผลข้อมูลที่อาศัยหลักการกลศาสตร์ควอนตัม ศาสตร์ที่ศึกษาพฤติกรรมของอนุภาคในระดับเล็กที่สุดของธรรมชาติ”
ขณะที่ โอลเล เอริคส์ซอน ประธานคณะกรรมการรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ กล่าวชื่นชมผลงานดังกล่าวว่า เป็นการค้นพบที่มีคุณค่ามหาศาล และยกย่องว่า “กลศาสตร์ควอนตัมคือรากฐานของเทคโนโลยีดิจิทัลทั้งหมดในโลกยุคปัจจุบัน”
#โนเบลฟิสิกส์2025 #อุโมงค์ควอนตัม #QuantumPhysics #NobelPrize #นักวิทยาศาสตร์โลก #เทคโนโลยีควอนตัม #ข่าวต่างประเทศ #ข่าววิทยาศาสตร์ #ฟิสิกส์ควอนตัม #NobelPhysics2025