เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ยื่นข้อเสนอขอเป็นประธานในการลงนามข้อตกลงสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งจะเกิดขึ้นในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในปลายเดือนนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อยืนยันการขับเคลื่อนกระบวนการสันติภาพในภูมิภาคและส่งเสริมความเป็นไปได้ในการคว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
การประชุมสุดยอดอาเซียนที่จะจัดขึ้นในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม 2568 จะมีการหารือเกี่ยวกับประเด็นภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อภูมิภาค ซึ่งยิ่งเพิ่มความสำคัญให้กับการขอจัดพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชาโดยประธานาธิบดีทรัมป์
การปะทะกันอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และกดดันให้ทั้งสองประเทศเริ่มการเจรจาเพื่อหาทางยุติความขัดแย้ง ก่อนที่จะมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม โดยมีนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซียเป็นผู้ไกล่เกลี่ย
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงหยุดยิงนี้ยังไม่สามารถยุติความตึงเครียดได้ทั้งหมด และในตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงประท้วงกันว่าเป็นฝ่ายต้นเหตุของความขัดแย้ง โดยพื้นที่ชายแดนยังคงตึงเครียด และกองทัพทั้งสองฝ่ายยังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ทรัมป์ต้องการให้มีการจัดพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพนอกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนเพื่อยืนยันความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านสันติภาพ โดยพิธีนี้อาจเกิดขึ้นจริง แต่จะขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลไทยจะยอมรับหรือไม่
ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังคงรณรงค์เพื่อคว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปีนี้ โดยอ้างว่าได้ยุติความขัดแย้งระดับโลกหลายครั้งในฐานะผู้นำสันติภาพสูงสุด นับตั้งแต่กลับเข้าทำเนียบขาวในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า การขอจัดพิธีลงนามสันติภาพในครั้งนี้เป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ทรัมป์จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนในครั้งนี้
การประชุมสุดยอดอาเซียนปีนี้คาดว่าจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ โดยมีผู้นำหลายคนที่เข้าร่วม เช่น นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน, นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย, ประธานาธิบดีลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล และประธานาธิบดีซีริล รามาโฟซา ของแอฟริกาใต้ การประชุมครั้งนี้จะเน้นหารือถึงการทำข้อตกลงทางการค้าระหว่างอาเซียนและสหรัฐฯ โดยเฉพาะภาษีศุลกากรที่มีผลกระทบต่อสินค้าส่งออกของภูมิภาค
ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจของอาเซียนจะได้รับผลกระทบจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ภูมิภาคต้องแสวงหาตลาดใหม่เพื่อกระจายการส่งออก โดยเฉพาะสินค้าในอุตสาหกรรมที่สำคัญ เช่น สิ่งทอและเครื่องใช้ไฟฟ้า
#ทรัมป์ #ข้อตกลงสันติภาพ #ไทยกัมพูชา #อาเซียน #โนเบลสาขาสันติภาพ #ภาษีศุลกากร #สหรัฐฯ #การค้าระหว่างประเทศ #การประชุมอาเซียน