"เอกนัฏ" เผยเหตุผลตัดใจลาออก"เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ" ต้องการแนวทางทำงานที่ "หนักแน่นและมั่นคง" ยันเคลียร์ "พีระพันธุ์" ปฏิเสธความขัดแย้งส่วนตัว "สุชาติ" บอกตัดสินใจร่วมงาน "ภูมิใจไทย" เป็นการแสดงจุดยืนการเมืองฝ่ายขวาอย่างชัดเจน พร้อมเปิดโอกาสให้กลุ่ม สส. สายใต้ตัดสินใจอนาคตตัวเองได้อย่างเป็นอิสระ
วันที่ 7 ต.ค.2568 เวลา 17.00 น.ที่พรรคภูมิใจไทย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และอดีตเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสส. พรรคภูมิใจไทยว่า ได้พูดคุยและซักซ้อมว่าในช่วงเวลาสภาที่เหลือจะทำงานร่วมกันอย่างไรให้สภาไม่ล่ม หรือมีวาระกฎหมายสำคัญ ที่ตนมีส่วนร่วมด้วย เช่น ร่างพ.ร.บ.ปล่อยข้อมูลข่าวสารมลพิษของโรงงาน ร่างพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้าและกฎหมายอื่นๆหลายฉบับ รวมถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องซักซ้อมก่อนที่จะครบ 4 เดือนก่อนที่จะมีการยุบสภา
เมื่อถามว่าเป็นการมาประชุมกับสส. ไม่ใช่การมาซบพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตนมาชัดเจนขนาดนี้ แต่ในระหว่างนี้ก็เป็นการทำงานร่วมกันในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไปจนถึงหมดวาระสภา แต่ในฐานะที่เป็นสส.ในส่วน ที่โหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนกันมารับทราบถึงแนวทางการทำงานในพื้นที่ในช่วงเวลาที่ยังเหลืออยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นนโยบายอะไรต่างๆก็ถือว่าเป็นประโยชน์
เมื่อถามว่าหตุผลที่จะมาอยู่พรรคนี้เพราะอะไร นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตนทำการเมืองด้วยความชัดเจนมาตลอดชีวิตว่าไม่ชอบความ ครึ่งๆกลางๆ ตั้งแต่ตัดสินใจโหวตให้นายอนุทินเป็นนายกฯ ต้องยอมรับว่าตั้งแต่มีคลิปเสียง ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม รวมถึงตน ทุกคนน่าจะต้องตัดสินใจก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ ถือว่าไม่สายเกินไปที่ตัดสินใจโหวตให้นายอนุทิน
"เราแสดงจุดยืนชัดเจน ในจุดยืนที่เราเป็นการเมืองฝ่ายขวาในเรื่องความมั่นคงเรื่องของชายแดน เรื่องของความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ผมในฐานะอดีตรมว.อุตสาหกรรม หลายคนได้เห็นบทบาทในการต่อสู้กับทุนเทา อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญกับธุรกิจเถื่อน ที่เอาเปรียบธุรกิจของประชาชนคนไทยก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับธุรกิจเหล่านั้นและคนไทยด้วย ซึ่งแนวทางเหล่านี้คิดว่า ต้องพูดกันตรงๆว่ามีพรรคภูมิใจไทยพรรคหนึ่งที่ยืนหยัดต่อสู้ เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างชัดเจนและแสดงท่าทีจุดยืนที่ชัดเจน และได้ใจพวกเรา พูดกันแบบตรงไปตรงมา"นายเอกนัฎ กล่าว
เมื่อถามว่าได้ใจมีสัญญาใจอะไรกันหรือไม่นายเอกณัฐ นายเอกนัฏ กล่าวว่า วันนี้ได้ประชุมสส.ร่วมกัน ตนคิดว่าจะตัดสินใจอะไร คิดถึงส่วนรวมให้มาก ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเพราะ 3-4 เดือนก็จะสู่โหมดเลือกตั้งแล้วถึงเวลานั้นหลายคนก็มีโอกาสได้ตัดสินใจว่า แต่ละคนจะทำอย่างไง วันนี้ ตนชอบอะไร ที่ชัดเจนไม่ชอบกั๊ก คิดว่าที่ทุกคนมาร่วมกันเป็นตัวแทนสส.มาประชุม สัญญาณที่ส่งไปชัด มากันทุกคนก่อนหน้านี้มีนายจุติ ไกรฤกษ์ ก่อนหน้านี้ นายชุมพล จุลใส ก็นำทีมอบจ. ชุมพร สจ. หลายคนมาสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเรียบร้อยแล้ว รวมถึงทีมงานสุดซอยของตนด้วย
เมื่อถามว่า หลังจากนี้พรรครวมไทยสร้างชาติจะเดินหน้าต่ออย่างไร นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคแล้ว แต่ตนยืนยันว่าการลาออกเป็นไปตามที่ได้พูดคุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมยืนยันว่า นายพีระพันธุ์เป็นคนดีคนหนึ่ง แต่แนวทางการทำงานของตนต้องการความหนักแน่น ความมั่นคง จึงได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นเลขาธิการพรรค
"ส่วนหนึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้กับกลุ่มสส. ทั้งกลุ่มชุมพร สุราษฎร์ธานี ราชบุรีพิษณุโลก และแพร่ ได้ตัดสินใจกำหนดอนาคต ของตัวเองอย่างเป็นอิสระ เพราะที่ผ่านมาทำงานร่วมกันมาตลอด ซึ่งการปลดล็อกของผม ก็ทำให้กลุ่มสส.ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังเหลือเวลาอีก 4-6 เดือน เหลือเฟือพอที่จะให้หัวหน้าพรรคได้บริหารงาน สามารถขับเคลื่อนทัพตามแนวทางที่กรรมการบริหารพรรคกำหนดไว้ได้ ไม่ได้ทำให้เสียโอกาส รวมทั้งวันนี้แม้จะลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคแล้ว,แต่ก็ยังคงต้องทำหน้าที่สส.ให้เต็มที่"นายเอกนัฎ กล่าว
เมื่อถามหลังจากนี้จะทำงานร่วมกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายในพรรคภูมิใจไทยได้หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตราบใดที่คิดเรื่องใหญ่ อย่าเอาปัญหาส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง รายการทำงานการเมืองที่ผ่านมา ไม่เคยมองเรื่องความแตกแยก ความขัดแย้ง แล้วมาการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เราสวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ยินดีที่จะร่วมงานกับทุกคน เพื่อเดินหน้าตามอุดมการณ์ของพรรค ก็มีแค่นั้นเอง และถือเป็น DNA ที่อยู่ในตัวเราเสมอ
การเมืองทั่วไป
1.2k
"เอกนัฏ" ไขก๊อกเลขาฯ รทสช. บอกต้องการ "ความมั่นคง" ทางการเมือง! ชี้ ภท. คือคำตอบ โชว์จุดยืนฝ่ายขวาชัดเจน
แชร์ข่าว