วันที่ 5 ตุลาคม 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำที่สถานีสูบน้ำพระโขนง เขตพระโขนง ภายหลังวานนี้ (4 ต.ค.68) มีฝนตกหนักในเขตประเวศสูงสุดในรอบปี ปริมาณ 121.5 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสถานีสูบน้ำพระโขนงเป็นหัวใจหลักในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันมีระดับน้ำหน้าสถานี -1 เมตร เดินเครื่องสูบน้ำ 12 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำสะสมในพื้นที่ลงแม่น้ำเจ้าพระยา และพร่องน้ำรองรับปริมาณฝนเพิ่มเติม
โดยภายหลังฝนตกหนักเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2568 มีรายงานจุดเร่งการระบายน้ำบนถนนสายหลักรวม 22 รายการ ในหลายเขต อาทิ บางขุนเทียน, ลาดกระบัง, ประเวศ, ราชเทวี, และดินแดง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมขังบนถนนสายหลักทั้ง 22 จุด ได้คลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ มีรายงานเหตุการณ์ต้นไม้ล้มกีดขวางการจราจร 1 รายการ บริเวณซอยรามคำแหง 32 แยก 1 เขตบางกะปิ แต่ไม่มีรายงานกระแสไฟฟ้าขัดข้องในพื้นที่ ณ เวลา 07.00 น. ของวันนี้ (5 ต.ค. 68) ระดับน้ำในคลองต่าง ๆ ทั้งภายนอกและภายในคันป้องกันน้ำท่วม เช่น ประตูระบายน้ำ (ปตร.) คลองสองสายใต้, ปตร.คลองแสนแสบ-มีนบุรี, คลองเปรมประชากร, และคลองลาดพร้าว ยังคงอยู่ในระดับปกติทุกจุดวัด
นายชัชชาติ เปิดเผยว่า จากการติดตาม สถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาและเขื่อนหลักในวันนี้มีปริมาณน้ำไหลผ่าน ณ สถานีเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ที่ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำทะเลหนุนสูงสุดที่ปากคลองตลาด อยู่ที่ +1.89 เมตร สำหรับระดับน้ำขึ้นสูงสุดของวันนี้ (5 ต.ค. 68) ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ +1.09 เมตร ในช่วงเวลา 18.37 น. ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลัก ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2568 พบว่า เขื่อนสิริกิติ์ มีความจุน้ำร้อยละ 95 เขื่อนแควน้อย มีความจุน้ำถึงร้อยละ 99 ซึ่งเข้าใกล้ความจุสูงสุดของอ่าง และเขื่อนภูมิพล มีความจุน้ำร้อยละ 88 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีความจุน้ำร้อยละ 73
"ปริมาณน้ำเจ้าพระยาที่ปล่อยมาในวันนี้ยังน้อยกว่าปี 2554 ซึ่งมีการปล่อยปริมาณถึง 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนปริมาณน้ำในเขื่อนหลักในวันนี้มีปริมาณใกล้เคียงกับปี 2554 แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพมากกว่า จึงยังไม่มีความน่ากังวล เพราะปริมาณน้ำไหลผ่านเจ้าพระยาในวันนี้ อยู่ที่ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังห่างจากจุดวิกฤตคือ 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที" นายชัชชาติ กล่าว
สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังในขณะนี้คือ พายุไต้ฝุ่น "แมตโม" ในภูมิภาค และพยากรณ์ว่าพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองสูงสุดถึงร้อยละ 70 ในช่วงกลางสัปดาห์ รวมถึงระดับน้ำเจ้าพระยาจะขึ้นสูงในวันที่ 10-11 ตุลาคมนี้ ช่วงเวลา 9.00 น. และ 19.00 น. ส่วนในวันนี้ระดับน้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นในเวลา 18.30 น. โดยวันเวลาแจ้งเตือนดังกล่าว ให้ประชาชนที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาเตรียมตัวเฝ้าระวัง โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ขณะที่กทม. มีการจัดเตรียมกระสอบทรายและอุดรอยรั่วของคันกั้นน้ำต่าง ๆ แล้ว รวมถึงเตรียมพร้อมด้านอุปกรณ์ความช่วยเหลือต่าง ๆ เช่น เครื่องสูบน้ำ การทำทางเดินชั่วคราว สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูง