วันที่ 4 ต.ค.2568 รองศาสตราจารย์ ดร.ณกมล ปุญชเขตต์ทิกุล อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุกในหัวข้อ
" ไท ไทย : วัฒนธรรมสร้างชาติ สู่อนาคตที่ยั่งยืน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในรัฐบาลชุดใหม่ล่าสุดนี้ ได้ มีการประกาศแนวนโยบายที่ สร้างความคาดหวังอย่างมากต่อทิศทางการพัฒนาวัฒนธรรมไทย ด้วยวิสัยทัศน์ “สืบสาน สร้างสรรค์ นำวัฒนธรรมไทย สู่อนาคตอย่างยั่งยืน” ภายใต้ แนวคิดหลัก “ไท ไทย” เป็นการเสนอให้มีการขับเคลื่อนภารกิจวัฒนธรรมเชิงยุทธศาสตร์ ที่จะเป็นแนวทางหลักที่จะพลิกบทบาทของวัฒนธรรมไทย จากสิ่งที่เคยถูกมองว่าเป็น “อดีตที่ต้องรักษา” ไปสู่ “พลังชีวิตที่สร้างอนาคต”
แนวคิดดังกล่าวมีความสำคัญและจะส่งผลลัพธ์เป็นไปในเชิงบวก ที่รวดเร็วและทรงพลังต่อวัฒนธรรมของชาติ แนวคิดดังกล่าวมีนัยสำคัญ ดังนี้
1. การสร้างพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมใหม่ในชุมชน (“ไทยใหม่”)
แนวทางแรกคือการสร้างพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในชุมชน เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสวิถีชีวิต ภูมิปัญญา และความทรงจำของท้องถิ่น เสมือนการค้นพบ “ไทยใหม่” ผมเห็นว่าทิศทางนี้มีความเป็นไปได้สูง เพราะชุมชนไทยมีทุนทางวัฒนธรรมอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องการคือการสนับสนุนที่จริงใจ การออกแบบพื้นที่ที่ชุมชนมีส่วนร่วม และการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยเล่าเรื่อง เช่น AR/VR หรือแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อให้ผู้มาเยือนสัมผัสได้ทั้งความเป็นไทยและความร่วมสมัย
2. โครงการ Cash Rebate สนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์และสื่อสร้างสรรค์ เป็นอีกแนวนโยบายที่น่าสนใจคือการสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์และสื่อสร้างสรรค์ ผ่านมาตรการ Cash Rebate เพื่อดึงดูดการถ่ายทำจากต่างประเทศ มาตรการนี้ หากมีตัว KPI ที่ชัดเจน จะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ และเผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปสู่สายตาคนทั่วโลกได้จริง ความท้าทายคือการกำกับดูแลที่เข้มแข็งและการทำให้เงินภาษีที่ใช้เกิดประโยชน์สูงสุด หากตั้งใจทำได้อย่างสำเร็จ ไทยจะก้าวขึ้นเป็นเวทีสำคัญของอุตสาหกรรมสื่อระดับโลก
3. โครงการ CPOT Next Gen: Thai Culture x Global Brands เป็นโครงการเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ ที่น่าจะมาได้เหมาะเวลา ดังนั้น การขับเคลื่อนเคลื่อนโครงการ CPOT Next Gen ที่มุ่งเชื่อมโยงวัฒนธรรมไทยกับแบรนด์ระดับโลก เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่สะท้อนวิสัยทัศน์กว้างไกล ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย เช่น อาหาร แฟชั่น ดนตรี งานหัตถกรรม ล้วนมีศักยภาพในการก้าวสู่ตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความท้าทายด้านมาตรฐาน คุณภาพ และความสามารถในการแข่งขัน แต่หากมีการสนับสนุนที่จริงจัง ทั้งด้านทุน การออกแบบ และการตลาดระหว่างประเทศ แต่การขับเคลื่อนโครงการนี้จะช่วยยกระดับ Soft Power ไทยให้มีพลังและเป็นที่ยอมรับอย่างแท้จริง
หากสังคมไทย ชุมชนไทย และท้องถิ่นไทย มองเห็นวัฒนธรรมคือพลังชีวิต และพลังสร้างชาติ ร่วมกันและทำให้เป็นวาระวัฒนธรรมสร้างชาติ
ขณะเดียวกันการที่ รัฐบาลชุดใหม่นี้ ก็ได้เห็นแล้วและเอาจริงกับเรื่องวัฒนธรรมสร้างชาติวัฒนธรรมไม่ใช่เพียงสิ่งที่ต้องรักษาไว้ แต่เป็นพลังชีวิตที่สามารถสร้างอนาคตได้ เราจะเห็นชัดว่าวิสัยทัศน์ “ไท ไทย” ไม่ใช่เพียงนโยบาย แต่คือโอกาสที่จะสร้างความภูมิใจในความเป็นไทย และนำสิ่งนั้นไปแบ่งปันกับโลก ที่สำคัญ แนวทางนี้ ยังสอดคล้องกับแนวคิด นักวัฒนธรรมสร้างชาติคนสำคัญคือ สิงห์ชัย ทุ่งทอง ผู้คิดค้นและผลักดันแนวคิด “วัฒนธรรมสร้างชาติ” เป็นรายการวัฒนธรรม ที่สำคัของชาต ทางช่อง 9 MCOT HD30 เผยแพร่อย่างต่อเนื่อง มากกว่า5ปี แนวคิดดังกล่าวตอกย้ำว่า การสร้างชาติอย่างมั่นคงและยั่งยืน ไม่ได้อาศัยเพียงเศรษฐกิจหรือการเมือง แต่ต้องมี “วัฒนธรรม” เป็นฐานรากทางจิตใจและคุณค่าของสังคม
ดังนั้น หากนโยบาย “ไท ไทย” ได้รับการผลักดันอย่างมีพลังมียุทธศาสตร์ คิดถึงชุมชนและประเทศชาติเป็นหลัก วัฒนธรรมไทยจะไม่เพียงแต่อยู่รอด แต่จะ ยืนหยัด สร้างชาติ และส่องประกายบนเวทีโลก อย่างสง่างาม
