บทบาททางการทูตของนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ ต่อกรณีความตึงเครียดกับกัมพูชาในปี 2568 มีลักษณะเป็นการทูตเชิงรุกที่เด็ดขาดและชัดเจน โดยมุ่งเน้นการปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเป็นทางการในทุกเวที นี่คือการพลิกเกมการทูตจากแนวทางประนีประนอมในอดีต มาสู่การยืนยันจุดยืนของประเทศอย่างแข็งกร้าวและมีเหตุผล
นายสีหศักดิ์ใช้เวทีโลกอย่างสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA 80) เป็นเครื่องมือสำคัญในการโต้ตอบคำกล่าวหาของกัมพูชาอย่างเปิดเผย โดยระบุว่าเป็นการ “แสดงตนเป็นเหยื่อ” และ “บิดเบือนความจริง” เพื่อขยายข้อพิพาททวิภาคีให้เป็นปัญหาระหว่างประเทศ พร้อมยืนยันว่าไทยจะไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตย และชี้แจงด้วยข้อเท็จจริงว่าผู้ได้รับผลกระทบที่แท้จริงคือทหารและพลเรือนผู้บริสุทธิ์ของไทย การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ไทยกลับมาอยู่บนจอเรดาร์โลกอีกครั้งในฐานะผู้เล่นที่ไม่ยอมอ่อนข้อในประเด็นความมั่นคง
แม้จะมีท่าทีแข็งกร้าวในเวทีโลก แต่ไทยยังคงเปิดประตูเจรจา โดยยืนยันความพร้อมในการเจรจาอย่างสันติผ่านกลไกทวิภาคี ภายใต้เงื่อนไขว่ากัมพูชาต้องแสดงความจริงใจและหยุดพฤติกรรมย้อนกลับไปกลับมา
เงื่อนไขหลักสี่ข้อเพื่อนำไปสู่ความสงบชายแดน ได้แก่ หยุดยิงถาวร เก็บกวาดทุ่นระเบิด ถอนอาวุธหนักออกนอกพื้นที่ และกวาดล้างอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งสะท้อนว่าไทยต้องการสันติภาพที่ยั่งยืน โดยไม่แลกกับอธิปไตย
การดำเนินการทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงการทูตไทยที่พร้อมต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีด้วยเหตุผลและหลักการ โดยยึดมั่นในความเชื่อว่าการเจรจาจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายให้ความเคารพในอธิปไตยของไทยอย่างแท้จริงเท่านั้น
#สีหศักดิ์พวงเกตุแก้ว #การทูตเชิงรุก #ไทยกัมพูชา #UNGA80 #สยามรัฐ #อธิปไตยไทย #การทูตไทย #ข่าวการเมือง #ข่าวต่างประเทศ #ThailandDiplomacy