“หมู” ราคาถูก “ถูกใจ” ผู้บริโภค ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ไม่มีกำลังซื้อ เป้าหมาย 100,000 กก.ทั่วประเทศผู้ เลี้ยงหมูรายใหญ่เชือดเนื้อตัวเอง รายย่อยขาดทุนเลิกกิจการ
วันที่ 3 ต.ค.68 นายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ร่วมกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภูมิภาค ทำกิจกรรมจำหน่ายเนื้อหมูปลอดสารเร่งเนื้อแดงราคาพิเศษ 2 กก. 100 บาท เพื่อระบายสุกรส่วนเกินออกให้กับผู้เลี้ยงและเพื่อตอบผู้บริโภคของดีราคาถูก
นายปรีชา กล่าวว่า โดยจัดขึ้น 3 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรมราช ตรัง และ สงขลา 1,300 กก. โดยเฉพาะที่ จ.ตรัง 418 กก. เวลาเพียง 10 นาทีขายหมด และจากการสอบถามบรรดาผู้บริโภคที่มาซื้อต่างให้การตอบรับและพูดตรงกันจะให้มีการจัดต่อไป
นายปรีชา ยังกล่าวอีกว่า การจัดกิจกรรมเนื้อหมูราคาพิเศษ 2 กก. 100 บาท ยังมีเป้าหมายจัดต่อไป ให้ได้ 100,000 กก. ประมาณ 2,500 ตัว แต่จะเปิดตามเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้บริโภคที่กำลังซื้ออ่อนตัวจะได้บริโภคในราคาที่ไม่สูง
“กิจกรรมราคาพิเศษ 2 กก. 100 บาท โดยปกติหมูต้องราคา 100 บาท ต่อ กก.ที่ผู้เลี้ยงจะอยู่ได้ ในกิจกรรมนี้ผู้เลี้ยงต้องสละและขาดทุน 50 บาท ต่อ กก. แต่เพื่อระบายสุกรที่เป็นส่วนเกิน และสนับสนุนให้ผู้บริโภคได้บริโภคสินค้าราคาถูกยามภาวะที่ไม่มีกำลังซื้อ และต้องยอมรับว่าตอนนี้กำลังซื้อไม่มี หมูต้องราคาดิ่งลงมาจาก 80 บาท ต่อ กก. มาอยู่ที่ 50 บาท ต่อกก. ขณะที่ราคาประกาศสมาคมอยู่ที่ 64 บาท ต่อ กก.”
นายปรีชา กล่าวว่า การเลี้ยงสุกรมีความเป็นไปอย่างยากลำบากสำหรับขนาดเล็กขนาดย่อยและขนาดกลาง จากที่ผ่านมรสมทั้งเรื่องโรคระบาด หมูเถื่อนต่างประเทศที่เข้ามาในตลาดที่ราคาต่ำ และต้องยุติไปแล้วเป็นจำนวนมากสำหรับรายย่อยรายเล็ก
“การเลี้ยงหมูปัจจัยสำคัญอีกตัวคือต้นทุนการผลิตที่สูงทั้งราคาอาหาร ยา ส่งผลให้ราคาสุกรไม่นิ่ง แต่หากมีต้นทุนที่ต่ำ ผู้เลี้ยงก็จะไม่มีความเสี่ยง และผู้บริโภคก็จะมีกำลังซื้อ”
#ภูมิภาค-81