วันที่ 1 ต.ค.68 เพจเฟซบุ๊ก "ประชาคมแพทย์" โพสต์ข้อความหัวข้อ "ทางเลือกสู่อนาคตไทย–กัมพูชา: จะเอาอย่างไรกับ MOU 43/44" ระบุว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ศ.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ได้แถลงต่อรัฐสภาว่า รัฐบาลมีแนวคิดที่จะจัดให้มี ประชามติ เกี่ยวกับอนาคตของ MOU 43/44 ระหว่างไทย–กัมพูชา นี่จึงเป็นโอกาสสำคัญที่สังคมไทยจะได้มีส่วนร่วมกำหนดท่าทีในประเด็นเขตแดนและอธิปไตยของชาติ
สาระสำคัญของ MOU 43/44
MOU 43 (พ.ศ. 2543): กรอบความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก
MOU 44 (พ.ศ. 2544): ว่าด้วยพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลและไหล่ทวีป
ทั้งสองฉบับเป็น กรอบเจรจา ที่กำหนดว่าทั้งสองประเทศจะหารือกันอย่างไร ไม่ใช่ข้อตกลงสุดท้ายเรื่องเขตแดน
ทางเลือกที่ประชามติต้องตอบ
1. ยกเลิก MOU 43/44 แบบมีเงื่อนไข
โดยต้องมี ฐานที่แข็งแรง เช่น ใช้ สนธิสัญญาไทย–ฝรั่งเศส และมาตราส่วนแผนที่ที่เป็นสากล (1:50,000) เพื่อสร้างความชัดเจนทางกฎหมาย
ไม่ใช่การยกเลิกแบบฝ่ายเดียว (Unilateral) แต่ต้องวางกรอบใหม่ที่มีน้ำหนักในระดับสากล
2. คงไว้ซึ่ง MOU 43/44
เพื่อรักษากรอบเจรจาที่มีอยู่
ใช้เป็นหลักอ้างอิงเมื่อต้องโต้แย้งกรณีอีกฝ่ายละเมิด
คงความสัมพันธ์ทวิภาคีและลดความเสี่ยงในการถูกดึงเข้าสู่กระบวนการระหว่างประเทศที่ไทยอาจไม่พร้อม
ฝ่ายที่ต้องการยกเลิก มักจะ ไม่เห็นด้วยกับการคงไว้ เพราะ เห็นได้ชัดว่า ฝ่ายกัมพูชา ก็มักจะละเมิด MOU อยู่เป็นประจำ อยู่แล้ว จริงๆดูเหมือนว่าไม่มีประโยชน์อะไร เพราะ เหมือนเป็นพวกเด็กเกเรชอบละเมิดข้อตกลง
ขณะที่ฝ่ายอยากให้เก็บ MOU ไว้ก็บอกว่า เพื่อไม่ให้นานาชาติ เอาข้ออ้างมา ยุ่งเกี่ยว กับเรื่องทวิภาคี ขืนยกเลิกก็เหมือน เป็นการเรียกให้ สหประชาชาติ เข้ามาจุ้นจ้านมากขึ้น ก็ว่ากันไป
จุดยืนของประชาคมแพทย์
เราเห็นด้วยกับการทำประชามติ
ประชาคมแพทย์ขอเสนอว่า อย่าเพิ่งยกเลิก MOU 43/44 โดยไม่มีเงื่อนไข นั่นคืออย่า เขียน Choice ในเอกสารประชามติว่า."ยกเลิก MOU" เฉยๆ
เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่สามารถทำอะไรฝ่ายเดียวได้ง่ายๆ และยังต้องมีองคาพยพอีกมากเพื่อมา support หรือทดแทน สิ่งที่เรายกเลิกไป
หากจะยกเลิก จึงต้องมี กรอบใหม่ ที่แข็งแรงและเป็นที่ยอมรับได้ทั้งในประเทศและในเวทีโลก
เช่น สนธิสัญญาไทยฝรั่งเศส และต้องใช้มาตราส่วนสากล 1 ต่อ 50,000 เป็นหลัก ในการ ปักปันเขตแดน
แต่หากจะคงไว้ ต้องใช้ MOU อย่างรอบคอบ ไม่ปล่อยให้เป็นจุดอ่อนของไทย และเป็นข้ออ้างของฝ่ายตรงข้าม ให้เราเสียดินแดนไป
การทำประชามติครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เรื่อง “เอกสารระหว่างประเทศ” แต่เป็นการตัดสินใจร่วมกันของคนไทยทั้งชาติ ว่าเราจะเดินไปบนเส้นทางไหน และจะรักษาอธิปไตยและเกียรติภูมิของไทยไว้อย่างไรในอนาคต คำถามและรายละเอียดที่จะต้องให้ประชาชนเลือก จะต้องชัดเจนแจ่มแจ้ง และมีตัวเลือกที่เหมาะสม
เราเห็นด้วยกับการทำประชามติอย่างเต็มที่ ถ้าท่านให้ข้อมูลแก่ประชาชน อย่างละเอียดลึกซึ้ง