ดร.วิชัย พยัคฆโส
[email protected]
ยุทธศาสตร์ชาติในการกำหนดเป้าหมายให้เกิดประเทศไทย 4.0 เริ่มฉายแววความเป็นไปได้สูงยิ่งในยุคของดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะกระทรวง DE ที่รับภารกิจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเข้าสู่ชีวิตประจำวันให้เกิดคุณภาพชีวิตของสังคมทุกระดับอาชีพ
วันก่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดร.พิเชษ ดุรงคเวโรช ที่ลุกจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่ได้วางพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไว้ก่อนหน้านี้ ถูกรัฐบาลส่งตัวไปลุยภาคปฏิบัติของกระทรวง DE ให้เกิดผลตามโรดแมปที่วางไว้ แต่ขับเคลื่อนได้ช้าหรือไม่ทันใจ ซึ่งนักวิชาการที่มีจิตวิญญาณของความเป็นวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเริ่มขับเคลื่อนให้เกิดสังคมดิจิทัล ด้วยระบบและโครงสร้างอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแก่จังหวัดพะเยาให้เป็นจังหวัดนำร่องในระดับหมู่บ้าน สามารถใช้เทคโนโลยีให้เกิดความรู้ เกิดอาชีพ เกิดธุรกิจ และเกิดคุณภาพชีวิตใหม่ให้แก่ชุมชน ตั้งแต่ระดับเด็กนักเรียนไปจนถึงผู้สูงอายุ รวมถึงทุกอาชีพในหมู่บ้านให้เกิดผลเป็นที่ประจักษ์
โครงการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงครบทุกหมู่บ้านน่าจะเกิดได้จริง ถ้าหากรัฐบาลขับเคลื่อนด้วยงบประมาณ เทคโนโลยี การให้ความรู้อย่างเป็นระบบแก่ชุมชน โดยมีรัฐมนตรีที่รู้จริง รู้กว้าง และรู้ลึกมาช่วยขับเคลื่อน แม้ว่าปีนี้มีเป้าหมายเกือบ 25,000 หมู่บ้าน เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศอยู่แล้ว จังหวัดพะเยาจึงถูกนำร่องเป็นแบบอย่างธุรกิจการค้าในระดับชุมชนไปสู่ระดับชาติ และอาจเข้าสู่นานาชาติได้ไม่ยาก หากรัฐบาลกับกลุ่มจังหวัดและภาคเอกชนระดมกันขับเคลื่อน เชื่อว่าคุณภาพชีวิตของชุมชนจะเริ่มพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน ตามวาระแห่งชาติที่ต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน
โซเชียลมีเดียในยุคดิจิทัลจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาประเทศและสังคม เห็นได้จากโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อความถูกต้องและเป็นธรรม ได้เริ่มแพร่ขยายความรู้สึกของประชาชนในหลายเรื่อง กล้องวงจรปิดและกล้องถ่ายติดหน้า หลัง รถยนต์ ส่งผลสู่หลักฐานของมิจฉาชีพ เมื่อพฤติกรรมของผู้คนที่ไม่รักษาวินัยและกฎหมาย ดังปรากฏบนสื่อทั้ง smart phone วิทยุ และโทรทัศน์ นั่นคือการะแสสื่อสังคมจะเริ่มกดดันให้หน่วยงานของรัฐ หรือผู้บังคับใช้กฎหมายต้องปรับพฤติกรรมกันมากขึ้น
การขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 ที่ต้องใช้นวัตกรรมมาขับเคลื่อนโดยใช้ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่งผลให้เยาวชนต่างมุ่
เข้าสู่การเรียนสาขาด้านวิทยาศาสตร์มากขึ้น เห็นได้ชัดจากผู้สมัครเรียนตามมหาวิทยาลัยต่างๆ เพราะสิ่งที่ปรากฏ บัณฑิตตกงาน ไร้อาชีพ ส่วนมากเป็นบัณฑิตสายสังคมเสียมากกว่าครึ่งต่อครึ่ง ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีของประเทศที่จะขับเคลื่อนด้วยทุนมนุษย์ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0
สิ่งที่สะท้อนให้กับสังคมและเยาวชนรุ่นหลังได้มีแรงบันดาลใจ จึงอยู่ที่รัฐบาลละหน่วยงานของรัฐ เอาจริงเอาจังกับงานมากกว่าเงินที่เป็นภาษีประชาชน ตัวอย่างดีๆมีให้เห็นการเปลี่ยนแปลงไปจากนักการเมืองรุ่นเดิมๆ จึงฉายแสงให้เห็นว่าการใช้คนดี คนเก่ง คนกล้า และรักประเทศยังมีอยู่มาก หากเขาได้มีโอกาสเข้ามาช่วยชาติ
อยากเห็นรัฐธรรมนูญที่จะช่วยเสริมสร้างประชาธิปไตยทีได้คนดี คนเก่ง และ ซื่อสัตย์สุจริต ดุจเช่นรัฐมนตรีหลายๆท่านในรัฐบาลยุค คสช. ตรงนี้แหละครับคือการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ให้แก่ประเทศไทยอย่างแท้จริง