ทีมข่าวคิดลึก
ภารกิจสำคัญที่อยู่ในความรับผิดชอบของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตลอดจน "แม่น้ำ" ทุกสายที่เชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องกันนั้น มีด้วยกันมากมาย เพราะดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เรื่องของการสร้างความปรองดองเท่านั้น
หากแต่ยังต้องไม่ลืมว่า ยังมีงานใหญ่ที่ คสช. ประกาศขับเคลื่อนเดินหน้านับจากนี้ ยังมีเรื่องของ "การปฏิรูปประเทศ" และการเดินหน้า "ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี" ร่วมด้วย !ลำพังภารกิจที่ว่าด้วยการสร้างความปรองดองของบิ๊กตู่นั้นต้องยอมรับว่ายากลำบากไม่ใช่น้อย แม้งานนี้จะดึงเอา "พี่ใหญ่" อย่าง "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้ามา "คุมงาน" ด้วยตัวเอง ด้วยเหตุที่ "พี่ป้อม" นั้นมากทั้งบารมีและมีคอนเน็กชั่น ประสานได้กับทุกเสื้อสี ทุกพรรคการเมือง
แต่แล้วทำไปทำมา หลังจากที่ทั้ง"บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม" ออกมาส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าถนนสายปรองดอง และมีการขานในห้วงแรกด้วยดี จนน่าพอใจทว่ายิ่งเนิ่นนาน วันเวลาทอดยาวออกไป คสช. กลับถูกกดดันกลับ ด้วยการโยนคำถามว่า การที่มี "ทหาร" เข้ามานั่งเป็นกรรมการในชุดต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการสร้างความปรองดองนั้นเป็นการเดินถูกทางหรือไม่
เพราะในสายตาของนักการเมืองทหาร คือ "คู่ขัดแย้ง" ดังนั้นการให้คู่ขัดแย้งลงมาทำหน้าที่เป็นกรรมการห้ามมวยเสียเอง คงไม่เหมาะแน่!
งานนี้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร ตลอดจน "ผู้บัญชาการเหล่าทัพ" ต่างออกมาตอบโต้และยืนยันในสถานะของกองทัพ ว่าไม่ใช่คู่ขัดแย้ง แต่ที่ต้องยึดอำนาจนั้นเป็นเพราะ "นักการเมือง" ขัดแย้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ทะเลาะกันจนบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปไม่ได้
หันกลับมามองที่ภารกิจใหญ่นอกเหนือไปจากการสร้างถนนสายปรองดองของรัฐบาล และ คสช. นั้นยังต้องไม่ลืมว่า งานด้านการปฏิรูป และการเดินหน้ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ย่อมไม่ใช่วาระที่จะสามารถละเลยได้เช่นกัน
เนื่องจากการปฏิรูปประเทศ ก่อนการเลือกตั้งนั้นคือสาระหลักๆ ที่เคยมีกลุ่มการเมือง ได้เคยออกมาเรียกร้องให้ คสช. เร่งดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยผ่านแม่น้ำสายที่ชื่อ "สภาปฏิรูปแห่งชาติ" หรือ สปช. ก่อนที่จะมาส่งไม้ต่อยัง "สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ" หรือ สปท. ที่มี "ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ" เป็นประธานดังนั้นหากวันเวลาที่เหลืออยู่ก่อนการเลือกตั้งเพียงไม่นาน แต่การปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ ที่ได้เคยวางกรอบกันเอาไว้ยังไม่เกิดเป็นรูปธรรม แน่นอนว่า นี่อาจกลายเป็น "เงื่อนไข" ที่ทำให้"กลุ่มการเมือง" ที่เคยเรียกร้อง นำมาใช้เป็นเหตุกดดัน คสช. ได้ในที่สุด !
ขณะเดียวกันการดำเนินการว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นั้นถือว่าเป็นงานใหญ่สำหรับ คสช. มากกว่าการปฏิรูปประเทศด้วยซ้ำ เนื่องจากยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นั้นคือการวางกรอบเพื่อกำหนดให้ "รัฐบาลใหม่" ต้องเดินตามสิ่งที่ คสช. ขีดเอาไว้ โดยก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดชัดเจนในเรื่องดังกล่าว
ดังนั้นวันเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดกับภารกิจแต่ละเรื่อง แต่ละด้านที่มากมายและมีแนวโน้มว่า คสช. ตลอดจนแม่น้ำทุกสายต้องร่วมกันฟันฝ่านั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่ายดาย และเป็นเกมที่เดินหน้าได้โดยไม่มีเงื่อนไข แต่อย่างใด !