ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] ผ่านพ้นกันไปเสียทีกับการจัดตั้งรัฐบาลนานกว่า 2 เดือน ในขณะที่นายกฯประยุทธ ผ่านการสรรหาฉลุยจากหลายๆพรรครวมกัน 500 เสียง แม้ว่าจะรอเจรจากับประชาธิปัตย์นานหน่อย แต่ผลที่ได้ยอมเสียสละเก้าอี้ใหญ่ๆให้ประชาธิปัตย์ไปนั่งบริหาร ภาคประชาชนต่างภาวนาให้เหตุการณ์นี้ผ่านพ้นไปด้วยดี แม้ว่าเสียงของรัฐบาลจะมีมากกว่ากึ่งหนึ่งก็จริง แต่ปริ่มๆน้ำแบบจะจมมิจมแหล่ จึงอยู่ที่การบริหารจัดการกับเสือสิงห์กระทิงแรดของพรรคร่วมได้ร่วมแรงร่วมใจผลักดันโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้เห็นชัดเจน ฝ่ายค้านแม้ว่าจะมีเสียงใกล้เคียงกัน เชื่อว่าไม่สามารถมีพลังผลักดันให้รัฐบาลล้มได้ เปิดดูขุมทรัพย์รัฐบาลใหม่ที่รอการตัดสินใจของรัฐบาลร่วมมากกว่า 1 ล้านๆบาทแล้ว สามารถดำเนินการได้ทันที เพราะมีแผนและงบประมาณพร้อมอยู่แล้ว นั่นคือแผนเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาลที่สภาพัฒน์ฯ รอเสนออยู่หลายโครงการ ล้วมแล้วแต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะนำความเจริญมาสู่ประเทศในอนาคต โครงการที่เป็นแผนของรัฐบาลระยะเร่งด่วนปี 2559 ที่รออนุมัติอยู่ 2 โครงการประกอบไปด้วย ลงทุนระบบราง 823,608 ล้านบาท และเงินลงทุนอีก 370,899 ล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วย รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-หัวหิน 94,673 ล้านบาท โครงการความร่วมมือก่อสร้างไทย-ญี่ปุ่น กรุงเทพ-พิษณุโลก 276,226 ล้านบาท โครงการตามแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน 2560 อยู่ระหว่างขออนุมัติ 452,709 ล้านบาท ประกอบด้วยศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม 61,169 ล้านบาท ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายนครปฐม-ชะอำ 79,006 ล้านบาท ทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง ภูเก็ต 14,777 ล้านบาท รถไฟทางคู่ปากน้ำโพ-เด่นชัย 59,400 ล้านบาท รถไฟทางคู่ชุมทางจิระ-อุบลราชธานี 36,683 ล้านบาท รถไฟทางคู่ ขอนแก่น-หนองคาย 25,842 ล้านบาท รถไฟทางคู่ชุมพร-สุราษฎร์ธานี อีก 23,080 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟทางคู่สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา 56,114 ล้านบาท รถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 7,864 ล้านบาท รถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่ 57,992 ล้านบาท รถไฟทางคู่บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม 67,965 ล้านบาท รถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม รังสิต-ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต 6,570 ล้านบาท รถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อนตลี่งชัน-ศิริราช และช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา 16,847ล้านบาท และยังมีโครงการจัดหารถโดยสารรถไฟฟ้าอีก 35 คัน พร้อมก่อสร้างสถานีประจุไฟฟ้า 467 ล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย4 21,197 ล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มช่วงสมุทรปราการ-บางปู 9,530 ล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มช่วงคูคต-ลำลูกกา 9,803 ล้านบาท ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายหาดใหญ่-ชายแดนไทย/มาเลเซีย 30,500 ล้านบาท และระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอน N2 และส่วนทดแทนตอน N1 อีก 23,215 ล้านบาท เอาแค่นี้ผู้รับเหมาต่างยิ้มรับโครงการเหล่านี้กันถ้วนหน้า แถมยังมีงบลงทุนใน EEC อีก ล้วนแล้วแต่เป็นเนื้อๆเงินสดๆทั้งสิ้น แถมยังมีข่าวแว่วว่าจะมีการดำริสร้างทางรถไฟเลียบโขงอีกสานอีกส่วนหนึ่ง เอาเป็นว่า 4 ปี หมดรัฐบาลชุดนี้แล้วยังสร้างกันไม่เสร็จ เมื่อได้นายกรัฐมนตรีแล้วขอให้รีบตั้งโครงสร้างองค์กรใส่คนเข้าไปบริหาร โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคมที่มีแผนไว้ล่วงหน้า ส่วนโครงการของกระทรวงอื่นๆยังมีอีกเพียบ ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของรัฐบาล รับกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมไว้ล่วงหน้าโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลารอคอยกัน 4-5 ปีเหมือนเดิม