ทีมข่าวคิดลึก ท่าทีขานรับ "การปรองดอง"จากสมาชิกสองพรรคการเมืองใหญ่ทั้ง "ประชาธิปัตย์" และ "เพื่อไทย"น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี ที่พอจะทำให้บรรยากาศในบ้านเมืองที่เคยร้อนระอุได้มีโอกาสกลับมาอยู่ในโหมดของมิตรไมตรีได้มากขึ้น ยิ่งเมื่อล่าสุด แกนนำคนเสื้อแดงอย่าง "จตุพร พรหมพันธุ์" ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ที่เพิ่งได้รับการประกันตัวชั่วคราว ยังระบุว่าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ และไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ! เมื่อบรรยากาศทางการเมืองกำลังกลับไปสู่ทิศทางที่น่าจะเป็น "บวก"มากกว่า "ลบ" อาจทำให้การเมืองน่าจะมองเห็นแสงสว่าง ได้มากกว่าที่ผ่านมา จะเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างเหนื่อยล้า กับการต่อสู้ทางการเมืองตลอดหลายปีที่ผ่านมากันเต็มที หรือเป็นเพราะนักการเมืองรู้ดีว่าหากยังดึงดัน แข็งขืนกันต่อไป ยิ่งมีแต่จะทำให้ "ทหาร" ยึดกุมอำนาจยาวนานออกไปมากเท่านั้น ! และดูเหมือนว่าเงื่อนไขการเข้ามายึดอำนาจของทหาร โดย "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ที่ผ่านมานั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความขัดแย้งของนักการเมืองที่ไม่สามารถได้ข้อยุติกันได้ จนเกิดการชุมนุมเคลื่อนไหวบนท้องถนนเพื่อขับไล่รัฐบาลในสมัยนั้นมาแล้ว การเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ จากนี้ไปบนเส้นทางไปสู่การปรองดองที่มี"บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับบทเป็นผู้กำหนดเกมการเล่น จะเต็มไปด้วยความคึกคัก เพราะด้วยคอนเน็กชั่นทางการเมืองที่บิ๊กป้อมมีอยู่ในมือย่อมเป็นเครื่องช่วยในการผลักดันให้เกิดการเจรจาขึ้นได้ไม่ยาก หรือก่อนหน้านี้เป็นไปได้ว่าอาจมีรายการเปิดเจรจากันอย่างไม่เป็นทางการ มาแล้ว ก่อนที่จะส่งสัญญาณดึงนักการเมืองเข้าสู่ถนนสายปรองดองตามกระบวนการขั้นตอนที่ปรากฏสู่สาธารณะ ! ในความเป็นจริงแล้ว ไม่เพียงแต่นักการเมืองเท่านั้นที่กำลังจะกลับเข้าสู่โหมดของความคึกคัก ทั้งการเตรียมตัวลงสนามเลือกตั้ง ไปจนถึงโอกาสที่จะพูดคุยเจรจากันเท่านั้น แต่ว่ากันว่า บรรดาสมาชิกแม่น้ำสายต่างๆ เองก็เตรียมตัว"แต่งตัว"ไปเล่นในสนามการเมืองเช่นกัน ไม่เช่นนั้นแล้วคงไม่มีคำถามยิงไปยัง "สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย" รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 หลังมีข่าวว่าจะมีสมาชิกสนช.บางกลุ่มบางส่วนเตรียมโดดลงไปเล่นการเมือง งานนี้ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่มีการเปิดช่องเอาไว้ง่ายๆสั้นๆ ว่า "ยังมีเวลาคิด"การเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้นแท้จริงแล้วเกิดขึ้น และดำเนินมาโดยตลอด แม้ คสช. จะไม่ยอมให้ไฟเขียวเปิดทางให้พรรคการเมืองจัดกิจกรรมใดๆ ได้ก็ตาม หากแต่จะเห็นได้ว่า นักการเมืองนั้นแทบไม่เคยห่างจากประชาชน ตลอดระยะเวลากว่าสองปีที่ผ่านมา!