ดร. วิชัย พยัคฆโส [email protected] ต้องยอมรับว่ากระทรวงการคลังยุคนี้คลอดผลิตภัณฑ์ หรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และผ่อนคลายความยากจนแก่ประชาชนระดับรากหญ้า เกษตรกร เอสเอ็มอี ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง หลังสุด “พิโกไฟแน้นซ์” เป็นข่าวคราวออกมาอีกมาตรการหนึ่ง ก่อนหน้านี้ “นาโนไฟแน้นซ์” ที่ให้สถาบันการเงินในระบบช่วยเหลือเอ็สเอ็มอี รวมถึงพ่อค้าแม่ค้ามาใช้บริการเข้าถึงการกู้ยืมเงินในวงเงินดูเหมือนจะเป็นหนึ่งแสนบาทนั้น ได้มีประชาชนมาใช้บริการบางส่วนออกจะไม่มากและไม่ค่อยได้รับความสนใจมากเท่าที่ควร ทำให้หลุดเป้าประมาณการในการให้สินเชื่อไปมาก อาจเป็นเพราะต้องมีสินทรัพย์มาค้ำประกันหรือไม่ หรือเกิดจากปัจจัยอื่น “พิโกไฟแน้นซ์” เป็นการให้สินเชื่อย่อยลงไปอีกไม่เกิน 50,000 บาท แต่ให้นายทุนเงินกู้นอกระบบที่บริการผิดกฎหมายเข้ามาอยู่ในระบบ ลงทะเบียนกับกระทรวงการคลังโดยต้องมีเงินลงทุน 5 ล้านบาท และถูกจำกัดดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 15 รวมถึงการบริหารจัดการจะไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี หากมองเจตนารมณ์ของกระทรวงการคลังเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนระดับรากหญ้าจริงๆ ที่ต้องการกู้เงินจากนายทุนนอกระบบจ่ายดอกเบี้ยต่ำกว่าที่ผ่านมา โดยไม่ต้องมีทรัพย์สินมาค้ำประกันไม่ต้องถูกนายทุนกดดันหรือทวงหนี้ถึงขั้นทำร้ายกันจนมีข่าวครึกโครมและเป็นความเจ็บปวดในชีวิตของคนยากคนจนมานานแสนนาน ส่วนผลดีเกิดแก่นายทุน คือเป็นการให้สินเชื่ออย่างถูกกฎหมายแต่นายทุนคงยากที่จะตัดสินใจเข้าร่วมเพราะผลประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิมมาก คำนวณแล้วร้อยละ 3 ต่อปี แต่อาจเกิดหนี้เสียหรือถูกเบี้ยวเงินต้น 50,000 บาท เพราะไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ที่น่าหวาดระแวงไปกว่านั้น อาจถูกเก็บภาษีจากรัฐบาลหรือถูกตรวจสอบลงไปลึกๆในกระบวนการ น่าจะเกรงกลัวผลเสียมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ แม้ว่าอาจได้รับการยกเว้นด้านภาษีก็ตามคงเหมือนกับที่จะให้เอ็สเอ็มอี ยื่นบัญชีอย่างถูกต้อง ลงทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ เช่นเดียวกัน ที่ยังไม่มีปัจจัยจูงใจที่เหมาะสมให้แก่เขา อย่างไรก็ดี หากนายทุนนอกระบบคิดถึงมนุษยธรรมในยุคที่ต้องเอื้ออาทรให้แก่ผู้มีรายได้น้อยได้มีคุณภาพชีวิตที่พึงมีในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ก็น่าจะพิจารณามาตรการของกระทรวงการคลัง ที่หวังช่วยประชาชนที่เป็นระดับรากหญ้าในทุกวิถีทาง บุญกุศลจะเกิดแก่ท่านและครอบครัวให้เกิดความสุขทางใจในชีวิตนี้ได้ ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับโครงการและมาตรการ “พิโกไฟแน้นซ์” เป็นอย่างมาก เพราะจะเป็นมาตรการที่เป็นประโยชน์และเป็นที่พึ่งพาของสังคมโดยที่มีความเหลื่อมล้ำกันอยู่มาช้านานให้เกิดช่องว่างน้อยที่สุด โดยคนรวยควรแบ่งปันให้ความเอื้ออาทรแก่กันจะได้อนิสงส์ร่วมกัน ในขณะที่การปฏิรูปประเทศกำลังดำเนินการกันอยู่และการปรองดองสำหรับคนในชาติได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ความหวังของรัฐบาลและประชาชนที่ต้องการให้ประเทศหลุดพ้นจากความยากจนจะได้ปรากฏในรัฐบาลชุดนี้และต่อๆไป ช่วยกันเถอะครับ