เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องป้องปรามกันในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง เมื่อมีการหยิบยกข้อมูลเมื่อปี 2560 ว่า ผู้หญิงร้อยละ 59.3 เคยถูกฉวยโอกาส ถูกลวนลามคุกคามทางเพศ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักและหาแนวทางป้องกันปัญหา
เพราะในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่แต่เพียงผู้หญิงเท่านั้น ที่ตกเป็นเหยื่อถูกลวนลามคุกคตามทางเพศ แต่ผู้ชายเองและบุคคลข้ามเพศ ล้วนแต่มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาดังกล่าว ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเองก็มักจะตกเป็นเหยื่อ ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และส่งผลต่อการท่องเที่ยว โดยเชื่อว่า คนทุกเพศทุกวัยต้องการเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ไม่ต้องคอยหวาดระแวงว่าจะถูกลวนลาม
แม้ปัจจุบัน สังคมไทยเปิดกว้างมากขึ้น รูปแบบการเล่นน้ำสงกรานต์ก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน จากแต่ก่อนที่จะใช้น้ำอบประพรม และประแป้งกันพอหอมปากหอมคอ กลายเป็นปืนฉีดน้ำ ที่เพิ่มแรงดันสูง ซึ่งผู้ฉวยโอกาสพุ่งเป้าฉีดไปที่ของสงวน หรือฉวยโอกาสประแป้ง แต่ละเมิดล้วงอวัยวะหรือของสงวน เป็นต้น
ผู้ก่อเหตุย่ามใจ และกระทำความผิดบ่อยๆ เพราะเข้าใจว่า หากกระทำแล้ว ผู้ตกเป็นเหยื่ออาจจะเกิดความอับอาย ไม่กล้าพูด หรือไปแจ้งความดำเนินคดี หรือหากดำเนินคดีก็โทษไม่หนักหนาอะไร จึงไม่เกรงกลัว
ทั้งที่ความจริงแล้ว หากลวนลามทำอนาจารนั้น มีความผิดตาม ป.อาญา ม.278 จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
ในขณะที่ปัจจัยหนึ่งกระตุ้นให้ขาดสติสัมปชัยญญะคือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นั้นก็มีพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่
แต่เหนืออื่นใด การบังคับใช้กฎหมายต่างๆ อย่างเข้มงวด อาจไม่สามารถป้องปรามปัญหาดังกล่าวให้หมดไปได้
สิ่งสำคัญ คือเครือข่ายชุมชนต้องร่วมกันสร้างพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยด้วยการช่วยกันสอดส่องดูแล ไม่ปล่อยให้พื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ กลายเป็นพื้นที่เสี่ยง อีกทั้งลำพังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องนั้น อาจมีกำลังไม่เพียงพอ กับผู้ที่จ้องก่อเหตุ
กระนั้น จึงต้องสร้างเครือข่ายในชุมชน เฝ้าระมัดระวัง ไม่เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ และการรู้เท่าทัน สังเกต ติดตามกลุ่มที่เสี่ยงที่จะก่อเหตุ ก็จะเป็นการช่วยกันลดปัญหาดังกล่าวก่อนที่จะเกิดเหตุ
ในขณะที่ผู้เล่นน้ำสงกรานต์ ไม่ว่าผู้หญิง ผู้ชาย หรือบุคคลข้ามเพศเอง ต้องไม่พาตัวเองไปอยู่ในจุดเสี่ยง ที่จะถูกลวนลาม ไม่เดินทางไปเล่นน้ำสงกรานต์คนเดียว หรือการเดินทางกลับจากเล่นน้ำสงกรานต์ในยามวิกาล
เรียนร้วิธีรับมือกับการลวนลามและคุกคามทางเพศ
ที่สำคัญ คือการปลูกฝังความเป็น สุภาพบุรุษ ไม่ฉวยโอกาส ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ หรือเหตุการณ์ใดๆ เพราะปัญหาการลวนลามคุกคามทางเพศไม่ได้เกิดขึ้นเพาะในช่วงเทศกาลเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ ต้องอาศัยการกล่อมเกลาจากครอบครัว เป็นหลัก แม้จะต้องใช้เวลาในการปลุกจิตสำนึกดังกล่าว แต่หากไม่เริ่มต้นปัญหาก็อาจจะลุกลามและยกระดับความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ
ดังนั้นจึงต้องหยุดปัญหาลวนลามและคุกคามทางเพศเสียแต่วันนี้