ชัชวาลล์ คงอุดม เรียน กองบรรณาธิการนสพ.สยามรัฐ คอลัมน์คุณชัช เตาปูนตอบจดหมาย เป็นข่าวระทึกขวัญทีเดียวในอาทิตย์ที่ผ่านมา คนขับรถหกล้อไล่ชนดะไปทั่วท้องถนน รถร่วม 40 คัน ต้องมีอันได้รับความเสียหายเดชบุญที่ไม่มีคนเจ็บคนตายมากมายก่ายกอง ถือว่าบุญโขแล้ว พอเหตุการณ์สงบ จับคนขับคลุ้มคลั่งยาได้ ก็สารภาพออกมาเต็มๆว่าเคยมีประวัติของการเสพยาเสพติด ฟังแล้วก็ช่างน่าเศร้าใจ บ้านเราทำไมถึงปล่อยปละละเลยให้คนติดยาเสพติดมาขับขี่ยวดยานพาหนะบนท้องถนนกันได้ขนาดนี้ ทำไมไม่คิดถึงหัวอกสุจริตชนและคนไทยที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่และเป็นผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ต้องพลอยมารับกรรมเช่นนี้ด้วยอย่างงั้นหรือ หากมีการบาดเจ็บล้มตายเกิดขึ้น คงจะเป็นเรื่องใหญ่โตมากกว่านี้ แต่นี่เป็นเพียงทรัพย์สินข้าวของเสียหายเท่านั้น เรื่องราวก็มีการพูดถึงเพียงแค่ 1-2 วัน ก็ซาลงไปแล้ว ยังไม่เห็นหน่วยงานที่ดูแลและเกี่ยวข้อง หรือรับผิดชอบหามาตรการดีๆออกมาคุ้มครองสิทธิและความปลอดภัยประชาชนเสียที นี่ก็ยังไม่รู้ว่า คนขับที่ติดยาบ้าในบ้านเราทำนองนี้ มีอีกมากน้อยขนาดไหน หน่วยงานรัฐน่าจะเข้าไปสอดส่องดูแลสถานประกอบการรับจ้างขนส่งให้ใกล้ชิดมากกว่านี้ ถ้าจะให้ดี ควรจะแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษทางอาญาไปเสียเลยหากมีการรับคนขับขี่ที่เสพยาเสพติดเข้ามาทำงานรับจ้างในการขับขี่หรือขนส่งสำหรับรถประเภทรถบรรทุก หรือรถรับจ้างส่งสินค้าต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างความตื่นตัวให้กับเจ้าของรถหรือสถานประกอบการ ได้มีส่วนรับผิดชอบดูแลสอดส่องแทนหน่วยงานรัฐไปด้วยในตัว ซึ่งก็จะทำให้โอกาสของความเสี่ยงของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนน้อยลง เกิดความปลอดภัยมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ นี่ถ้าไม่เกิดกรณีคนขับรถหกล้อเสพยาเสพติดแล้วคลุ้มคลั่งเที่ยวขับรถชนรถคันอื่นๆ บนท้องถนนแล้ว พวกเราคนไทยคงจะไม่มีทางรู้ถึงพิษภัยของคนเสพยาเสพติดว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวคนไทยเข้ามาทุกขณะ นอกเหนือจากเราจะเห็นคนเสพยาฆ่าพ่อ ฆ่าแม่หรือฆ่าลูกตามหน้าหนังสือพิมพ์ซึ่งน่ากลัวน่าเศร้าใจกันแล้ว แต่นี่สิน่ากลัวกว่าหลายเท่าทีเดียว ภาครัฐทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆควรจะมีการปรับปรุงกฎหมายและจัดระเบียบเสียใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงในปัจจุบัน รวมไปถึงกรมทางหลวง หรือกรมการขนส่งทางบกควรจะมีการจัดตั้งหน่วยงานเข้าไปสอดส่องดูแลธุรกิจรับจ้างขนส่งต่างๆในเรื่องของการตรวจวัดสารเสพติดของผู้ขับขี่ด้วย รวมไปถึงรถทัวร์รถบัสขนส่งผู้โดยสารจำนวนมาก ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ตลอด โดยเฉพาะการต่อใบอนุญาตขับขี่ประจำปีทุกครั้งไป ควรจะต้องมีการตรวจหาสารเสพติดอยู่ตลอด ไม่ใช่สอบข้อเขียนหรือทดสอบการขับขี่แล้วผ่าน เป็นอันจบ ซึ่งบ้านเราควรจะเข้มงวดกวดขันกันมากกว่านี้ ยิ่งประเทศเพื่อนบ้านเราเวลานี้เข้ามาทำงานเป็นคนขับรถรับจ้างจำนวนมาก มีทั้งใบขับขี่จริง ใบขับขี่ปลอมเกลื่อนกลาด ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่รถทัวร์ รถบรรทุก หรือรถรับจ้างทั่วไป แต่ละปีทางการใส่ใจเข้าไปตรวจสอบลงลึกกับเรื่องพวกนี้ยังน้อยกว่าที่ควร ทั้งที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างมาก ทำไปทำมาเผลอๆ เรื่องพวกนี้เป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของการเกิดอุบัติเหตุ7 วันอันตรายในช่วงของเทศกาลปีใหม่ และเทศกาลสงกรานต์ก็อาจเป็นได้เพราะหน่วยงานรัฐมักจะคิดเป็นเรื่องของเมาสุรา แล้วเกิดอุบัติเหตุ แต่ลืมนึกถึงกันไปว่า พวกเสพยาเสพติดแล้วเกิดความคึกคะนอง หรือเกิดอาการหลอน แล้วขับขี่อย่างไม่ระมัดระวัง ซิ่งไปซิ่งมาบนท้องถนนก็มีจำนวนไม่น้อยทีเดียว แต่ไม่เคยเห็นมีใครพูดถึงหรือนึกถึงกันเลยว่า กลุ่มคนเสพยาเสพติดแล้วมาขับขี่รถยนต์ มีจำนวนเท่าไหร่ รวมถึงลงลึกกันไปในรายละเอียดว่า สาเหตุเกิดอุบัติเหตุมาจากการเสพยาเสพติดแล้วขับขี่มีกันมากน้อยขนาดไหน เวลาเกิดเหตุที ก็ไม่รู้ว่าลงสาเหตุมาจากเมาแล้วขับขี่กันทุกรายไปใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้นอยากจะฝากไปถึงท่านนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและขันนอตการทำงานของหน่วยงานของรัฐต่างๆที่ดูแลความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนให้เข้มข้นมากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ โดยเฉพาะคนติดยาเสพติดไม่ควรจะให้มีการขับขี่ยวดยานพาหนะหรือมีการออกใบขับขี่ให้สามารถขับขี่รถได้ และถ้าหากเป็นไปได้ ก็อยากจะให้ทำครอบคลุมไปถึงผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ หรือโรคเส้นโลหิตตีบตันโรคอัลไซเมอร์ ตลอดจนโรคร้ายแรงที่เสี่ยงต่อการขับขี่ยวดยานพาหนะด้วยสิ่งต่างๆเหล่านี้ควรจะมีการปัดฝุ่นและจัดระเบียบเสียให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันผู้บริสุทธิ์ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อรับเคราะห์กรรมกับการประสบอุบัติเหตุอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งมันไม่เป็นธรรมกับผู้บริสุทธิ์ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างพวกเขากันเลยครับ คงจะขอฝากไว้เพียงเท่านี้ครับ ขอบพระคุณอย่างสูง หนึ่งในผู้ใช้รถใช้ถนน เรียน ผู้ใช้นามปากกา "หนึ่งในผู้ใช้รถใช้ถนน" ขออนุญาตตอบจดหมายของคุณนะครับ ก็เป็นกรณีศึกษาและอุทาหรณ์นะครับ สำหรับอุบัติเหตุทางรถยนต์ในบ้านเรา นี่คงจะถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ทีเดียว ซึ่งเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่จากสาเหตุผู้ขับขี่รถบรรทุกที่มีประวัติเสพยาเสพติดแล้วเกิดคลุ้มคลั่ง จนกระทั่งบ้าระห่ำขับรถเที่ยวชนดะกับรถคันอื่นๆบนท้องถนนเสียหายมากมายขนาดนี้ ซึ่งมันสะท้อนถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนหรือผู้คนที่เดินทางสัญจรไปมาอย่างมากทีเดียว ก็คงต้องฝากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือถึงภาครัฐที่มีความคิดจะผลักดันการปฏิรูปความปลอดภัยบนท้องถนนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการผลักดันแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษปรับทางจราจรกับผู้กระทำผิดทางจราจรก็ดี หรือการปรับปรุงกฎระเบียบกติกาต่างๆเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนก็ตามที ก็อยากจะฝากให้มีการทบทวนและหามาตรการป้องกันและป้องปรามไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยอุบัติเหตุรุนแรงเช่นในรายผู้ขับขี่รถหกล้อที่คลุ้มคลั่งรายนี้ด้วยครับ สำหรับข้อเสนอแนะของคุณหนึ่งในผู้ใช้รถใช้ถนน ผมคงต้องขอส่งไม้ต่อให้ท่านนายกฯได้เป็นผู้พิจารณาตามแต่เห็นสมควร ก็แล้วกันนะครับ ด้วยรักและนับถือ เจริญชัย อุดมพาณิชวงศ์ "ก็คงต้องฝากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือถึงภาครัฐที่มีความคิดจะผลักดันการปฏิรูปความปลอดภัยบนท้องถนนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการผลักดันแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษปรับทางจราจรกับผู้กระทำผิดทางจราจรก็ดี หรือการปรับปรุงกฎระเบียบกติกาต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนก็ตามที ก็อยากจะฝากให้มีการทบทวนและหามาตรการป้องกัน และป้องปรามไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยอุบัติเหตุรุนแรงเช่นในรายผู้ขับขี่รถหกล้อที่คลุ้มคลั่งรายนี้"