ชุมศักดิ์ นรารัตน์วงศ์
ต้องยอมรับว่าตลอดหลายปีมานี้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน ต่างพยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ดีที่สุด เพื่อนำ “สันติสุข” กลับมาโดยเร็ว ซึ่งผลปรากฏมีหลายโครงการหรือหลายนโยบายที่ทั้งสำเร็จและล้มเหลว ทั้งเกิดการประสานหลอมรวมและปะทะ ทั้งเป็นมิตรและเหมือนอยู่กันคนละฟากฝ่ายอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในสายตาของผู้คนส่วนหนึ่งย่อมมองว่าผู้ตกเป็น “จำเลย” เสมอๆ
สำหรับเหตุการณ์ชายแดนใต้คือ “ภาครัฐ” เพราะสะท้อน “จุดอ่อน” มากมาย ทั้งเชิงนโยบาย การเปลี่ยนตัวผู้นำ การดำเนินโครงการที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ จุดอ่อนของการนำนโยบายไปปฏิบัติ ฯลฯ ซึ่งส่วนหนึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ ทว่าขณะเดียวกันหากถามว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐหรือ “คนของรัฐ” ทำงานหนักหรือไม่ ต้องยอมรับว่า ทำงานกันหนักพอสมควร ในที่นี้ผู้เขียนขอยกตัวอย่างประมวลภาพเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันที่ 20 ธันวาคม 2559 วันเดียว
เริ่มจากเวลา 08.30 น. ที่ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นาย HABIB ABDULRAHMAN ALI MOHAMMED BIN HAFEEDH ผู้นำศาสนาจากประเทศเยเมนพร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทย พี่น้องมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพี่น้องมุสลิมโลกอาหรับ โดยมี พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4
พลโท ชินวัฒน์ แม้นเดช รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอบต.) และคณะให้การต้อนรับ จากนั้นเวลา 10.00 น. ท่าน HABIB ABDULRAHMAN ALI MOHAMMED BIN HAFEEDH และคณะ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมการแก้ไขปัญหายาเสพติดของศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดในมิติศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
เวลา 11.30 น. ที่โรงแรมหรรษา เจบี หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายประสิทธิ์ ชูเมือง รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศบ.บต.) เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส เข้าร่วม 333 คน โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท่องถิ่นในกรอบการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเพื่อเน้นย้ำทิศทางการทำงานด้านการพัฒนา ภายใต้โครงการ “เมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” รวมถึงโครงการสำคัญอื่นๆ ของรัฐบาล อีกทั้งเพื่อสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันระหว่าง ศอ.บต. กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย โดยนายประสิทธิ์ ชูเมือง กล่าวถึงการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่า เป็นองค์กรที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด จึงรับรู้ เข้าใจ และมองเห็นปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องในพื้นที่ ถือได้ว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ กลไกหลักที่สำคัญในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 4 ประการ คือ ลดการใช้ความรุนแรงในพื้นที่และสนับสนุนแนวทางสันติวิธี ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข สังคมในจังหวัดชายแดนภาคเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความเข้มแข็ง อีกทั้งประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สนับสนุนแนวทางของรัฐ ดังนั้นการจัดทำโครงการต่างๆ ควรตอบโจทย์และให้ประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่มากที่สุด ต้องมี Output outcome และ impact เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
เวลา 14.00 น. ณ ศาลาประชาคม ที่ว่าการอำเภอรือเสาะ จ.นราธิวาส นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต. มอบหมายให้ นายมาหะมะพีสกรี วาแม ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมงาน “สภาซูรอ สันติเสวนา กัมปงตักวา ระดับอำเภอ” ตามยุทธศาสตร์ “ฮาลาล” นำประชาสู่สวรรค์ สร้างสันติโลกนี้สู่โลกหน้า โดยมี พลโทชินวัฒน์ แม้นเดช รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นายฮาบีบ อับดุลเราะห์มาน อาลี มูฮัมหมัด บิน ฮาฟิซ ผู้นำศาสนาอิสลามจากประเทศเยเมน นายอับดุลเลาะ เจ๊ะแว ประธานชมรมมุสลิมภราดรภาพขับเคลื่อนกัมปงตักวา ตลอดจนผู้นำศาสนา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เข้าร่วม กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และสนับสนุนผู้นำศาสนาในการแก้ไขปัญหาทุกมิติ ทั้งด้านความมั่นคง ยาเสพติด โดยใช้หลักศาสนาที่ถูกต้องเป็นแนวทางนำในการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อให้เกิดความสามัคคีความรักใคร่ต่อกัน นำไปสู่ความสันติสุขแบบยั่งยืน และให้มัสยิดเป็นจุดศูนย์กลางในการให้ความรู้ทางศาสนาและการดำรงวิถีชีวิต
ในวันเดียวกันนี้ เวลา 15.45 น. ที่ โรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ปฏิบัติหน้าที่รองเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดโครงการปฐมนิเทศข้าราชการ พนักงานราชการ และพนักงานส่วนท้องถิ่น จังหวัดชายแดนภาคใต้ รุ่นที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 โดยมี ข้าราชการ พนักงานราชการ และพนักงานส่วนท้องถิ่นจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วม นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ กล่าวว่า มีความเชื่อมั่นว่าบ้านเมืองของเราที่อยู่ได้ถึงทุกวันนี้ เสาหลักประการหนึ่งก็คือ ข้าราชการ พนักงานราชการ และพนักงานส่วนท้องถิ่น และสำหรับจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ถือว่าคือผู้เสียสละที่มาช่วยกันทำให้บ้านเมืองเกิดความสันติสุข อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับมอบหมายให้มาปฏิบัติงานในพื้นที่ เป็นคนดี มีความสามารถ และได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ในส่วนของ ศอ.บต. ก็จำเป็นต้องเติมเต็มในส่วนของข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เรื่องนโยบาย ยุทธศาสตร์ ภาษา ศาสนา อัตลักษณ์ ประเพณี วัฒนธรรมต่างๆ เป็นต้น เชื่อว่าตลอดระยะเวลาการอบรมทุกคนจะได้รับรู้ รับทราบสิ่งต่างๆ เหล่านี้และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี
นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ กล่าวอีกว่า เมื่อข้าราชการ และพนักงานราชการ ได้รับมอบหมายให้มาปฏิบัติงานในพื้นที่ นอกจากต้องปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ของหน่วยงานตามสังกัดแล้ว ศอ.บต. มีหน้าที่ในการเติมเต็มให้หน่วยงานต่างๆ ตามบทบาทหน้าที่ของ ศอ.บต. เพื่อการพัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายพลเรือน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และบูรณาการการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงาน ให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับสภาพทางสังคม เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของประชาชน ตลอดจนหลักรัฐประศาสโนบายของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ทั้งนี้การปฐมนิเทศข้าราชการ มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับข้อเท็จจริงและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ นโยบาย ยุทธศาสตร์ หลักศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม การปฏิบัติตัวที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดทักษะและทัศนคติที่เหมาะสมต่อการปฏิบัติงานในพื้นที่ สำหรับการปฐมนิเทศฯ ในรุ่นนี้กำหนดดำเนินการระหว่างวันที่ 20-24 ธันวาคม 2559 โดยมีผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วยข้าราชการพลเรือน ข้าราชการครู ข้าราชการส่วนท้องถิ่น และข้าราชการตำรวจ รวมจำนวน 169 คน
นอกจากนี้ ที่โรงแรมบีพีแกรนด์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. บรรยายหัวข้อ “สถานการณ์และการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการพัฒนาเศรษฐกิจเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ในโครงการปฐมนิเทศข้าราชการ พนักงานราชการ และพนักงานส่วนท้องถิ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2560 รุ่นที่ 1 โดยมี ข้าราชการ พนักงานราชการ และพนักงานส่วนท้องถิ่นจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าร่วมรับฟัง ทั้งนี้การปฐมนิเทศฯ รุ่นนี้กำหนดดำเนินการระหว่างวันที่ 19-23 ธันวาคม 2559 มีผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วยข้าราชการพลเรือน ข้าราชการครู ข้าราชการส่วนท้องถิ่น และข้าราชการตำรวจ รวมจำนวน 220 คน
จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่า หน่วยงานภาครัฐเอง พยายามกำหนดบทบาทและวางแนวทางการปฏิบัติงานอย่างรัดกุมและต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งผู้ปฏิบัติงานและความเข้าใจพื้นที่ สิ่งสำคัญคือ การยึดหลักปรัชญา “ทำงานแยกส่วน แต่อย่าแยกใจ” เพราะทุกคนทุกฝ่ายล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน หากทว่าด้วยมุมมอง ประสบการณ์ ความมุ่งหวัง ล้วนแตกต่างกัน อยู่ที่ว่าจะพูดคุยปฏิบัติให้เกิด “ทางสายกลาง” ที่ทุกอย่างยอมรับกันได้เช่นใด เพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อประชาชนได้อย่างสูงสุด