พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ให้ความหมายของคำว่า “จริยธรรม” ว่า “ธรรมที่เป็นข้อประพฤติปฏิบัติ, ศีลธรรม, กฎศีลธรรม” หรือก็คือ หลักเกณฑ์ที่ใช้ตัดสินว่าอะไรดี/ถูกต้อง หรืออะไรชั่ว/ผิด
จริยธรรมของนายกรัฐมนตรีถือเป็นหลักการสำคัญที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 โดยไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงข้อกำหนดทางกฎหมาย แต่ยังเป็นพื้นฐานในการสร้างความน่าเชื่อถือและความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 127 และ มาตรา 219 ได้ระบุถึงมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระและผู้ใช้อำนาจรัฐ ซึ่งหลักการเหล่านี้ย่อมนำมาปรับใช้กับนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารเช่นกัน
มาตรา 127 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 กำหนดห้ามมิให้เจ้าพนักงานของรัฐบางตำแหน่ง ดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเอกชน ที่อาจก่อให้เกิดการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม ภายในระยะเวลาสองปีนับจากวันที่พ้นจากตำแหน่ง
มาตรา 219 รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระร่วมกันกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ, ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ. มาตรฐานดังกล่าวต้องครอบคลุมถึงการรักษาเกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ และต้องระบุให้ชัดเจนว่าการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมใดมีลักษณะร้ายแรง. นอกจากนี้ มาตรฐานทางจริยธรรมนี้ยังใช้บังคับกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกวุฒิสภา, และคณะรัฐมนตรี. การจัดทำมาตรฐานทางจริยธรรมดังกล่าว ต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกวุฒิสภา, และคณะรัฐมนตรี.
คุณสมบัติที่สำคัญของจริยธรรมสำหรับนายกรัฐมนตรีนั้น มุ่งเน้นไปที่การ ปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต เป็นกลาง และปราศจากอคติหรือผลประโยชน์ทับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่อง การป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นภารกิจหลักในการบริหารประเทศ ตามหลักการสากล จริยธรรมของผู้นำรัฐบาลยังเชื่อมโยงกับ หลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ซึ่งประกอบด้วยความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และประสิทธิภาพในการบริหารจัดการประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานได้
นอกจากนี้ จริยธรรมยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้าง ความเชื่อมั่นในสถาบันการเมือง โดยผู้นำจะต้องมีจิตสำนึกในการให้บริการประชาชนอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม การตีความจริยธรรมในรัฐธรรมนูญจึงไม่ใช่เพียงแค่การปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่เป็นการปลูกฝังค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริตให้เป็นส่วนหนึ่งของจิตสำนึกในการใช้อำนาจรัฐ ซึ่งจะช่วยให้การบริหารประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและชอบธรรมในระยะยาว