“เสียงสะท้อน” จากพี่น้องประชาชน ผ่าน “โพล” สำนักต่างๆ กำลังกลายเป็น “โจทย์ใหญ่” ทำให้การเดินต่อไปข้างหน้า ของทั้ง “รัฐบาล” และ “นายกฯอิ๊งค์” ยากลำบากเต็มที !
“สวนดุสิตโพล” เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ครม.ชุดใหม่และภาษีทรัมป์” พบว่า ผลงานหรือนโยบายที่อยากเห็นคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เร่งดำเนินการมากที่สุดคือ แก้ปัญหาค่าครองชีพ เศรษฐกิจ ร้อยละ 65.41
เรื่องที่กังวลเกี่ยวกับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่คือ อาจมีบุคคลที่ประวัติไม่โปร่งใส ความสามารถไม่ตรงกับงาน ร้อยละ 62.97
และ เมื่อเทียบกับ ครม.ชุดที่ผ่านมาคิดว่าการทำงานของ ครม.ชุดใหม่ “อาจจะแย่กว่า” ร้อยละ 41.56
ในส่วนของความเห็นเกี่ยวกับกรณีโดนัล ทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทย 36% คาดว่าจะกระทบเศรษฐกิจไทยอย่างมาก ร้อยละ 50.04 สุดท้ายมองว่ารัฐบาลไทย ไม่น่าจะเจรจาแก้ไขปัญหานี้ได้ร้อยละ 50.63
หมายความว่า ความหวัง ความเชื่อมั่นว่ารัฐบาล “แพทองธาร 1/ 2” จะแก้ปัญหาทั้งภาษีทรัมป์ ตลอดจนการบริหารงาน ล้วนเผชิญกับ “ความไม่เชื่อมั่น” จากประชาชนทั้งสิ้น
นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ยังปรากฏว่า “นิด้าโพล” เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “การเมืองไทย ไปต่อแบบไหนดี” ยังพบว่า ร้อยละ 42.37 ระบุว่า นายกฯแพทองธาร ควรประกาศ “ลาออก” จากตำแหน่ง เพื่อหานายกฯ คนใหม่
รองลงมา ร้อยละ 39.92 ระบุว่า นายกฯแพทองธาร ควร “ยุบสภา” เพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วไป ร้อยละ 15.04 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ควรบริหารประเทศต่อไปเหมือนเดิม ร้อยละ 1.37 ระบุว่า เรียกร้องให้มีการรัฐประหาร
ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้น คือ “นายกฯคนต่อไป” ที่จะมาตามรัฐธรรมนูญ หาก นายกฯอิ๊งค์ มีอันต้องพ้นจากตำแหน่ง อันดับ 1 ร้อยละ 32.82 ระบุว่าคือ “ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” องคมนตรี ซึ่งมีชื่อเป็นแคนดิเดตจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนชื่อ “ชัยเกษม นิติสิริ” ไพ่ใบสุดท้ายของ “เพื่อไทย” ตกไปอยู่อับดันที่ 3 ได้คะแนน ร้อยละ 9.77
หากประเมินจากโพล ทั้งสองสำนัก แม้จะสำรวจด้วย “หัวข้อ” ที่แตกต่างกัน แต่กลับสะท้อนความเชื่อมั่น ที่มีต่อ “ฝีมือ” ของครม.ใหม่ และยังพุ่งเป้าไปที่ “ตัวบุคคล” คือการเปลี่ยนตัว “นายกฯ” ที่ค่อนข้างชัดเจน และเหนืออื่นใด การที่พรรคเพื่อไทย โยนชื่อ ชัยเกษม ลงมา “จองเก้าอี้” เพื่อหวัง “ป้องกัน”ไม่ให้ “อำนาจ” หลุดมือ ฝั่งตรงข้ามนั้น อาจจะต้านทานกันไม่อยู่ !