เกือบหลับแต่กลับมาได้ หลังใช้เวลานานกว่า 4 ปีในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ล่าสุด “การบินไทย” ได้รับคำสั่งจากศาลล้มละลายกลางให้ ยกเลิกแผนฟื้นฟูกิจการอย่างเป็นทางการแล้ว ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงความสำเร็จในการฟื้นคืนศักยภาพทางธุรกิจของสายการบินแห่งชาติ ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 และภาวะหนี้สินกว่า 4 แสนล้านบาทเมื่อเริ่มต้นแผนฟื้นฟูในปี 2563
อย่างไรก็ตาม แม้การฟื้นฟูจะประสบความสำเร็จ แต่การบินไทยยังต้องชำระหนี้อีกเกือบ 1 แสนล้านบาท ภายในปี 2579 โดยจนถึงไตรมาส 1 ของปีนี้ บริษัทฯ ได้ทยอยจ่ายหนี้ไปแล้วราว 94,000 ล้านบาท จากหนี้ตามแผนที่ยืนยันสิทธิ์โดยศาลราว 189,000 ล้านบาท
ความสามารถในการชำระหนี้อย่างต่อเนื่องนี้ บ่งชี้ถึงประสิทธิภาพในการบริหารกระแสเงินสด และการดำเนินงานเชิงรุกเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
ความสำเร็จด้านการเงินควบคู่กับการปรับปรุงบริการ ทำให้การบินไทยกลับมาติด Top 3 สายการบินที่มีกำไรจากการดำเนินงานสูงที่สุดในโลก ติดต่อกัน 2 ไตรมาส (จัดโดย Airline Weekly)
ทั้งนี้ การบินไทยต้องตระหนักว่า โลกธุรกิจสายการบินหลังโควิด-19 เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ทั้งด้านพฤติกรรมผู้โดยสาร ต้นทุนการดำเนินงาน และการแข่งขันจากสายการบินโลว์คอสต์และผู้เล่นใหม่
การบินไทยอาจก้าวพ้นจุดวิกฤตทางการเงิน แต่สิ่งที่รออยู่เบื้องหน้าไม่ใช่ความเรียบง่าย หากเป็นเส้นทางใหม่ที่ต้องอาศัยการบริหารจัดการแบบมืออาชีพ การปรับตัวเชิงกลยุทธ์ และการตัดสินใจเชิงนโยบายที่ถูกจังหวะ
หากการบินไทยสามารถผสานความแข็งแกร่งทางการเงินที่ได้คืนมา กับวิสัยทัศน์ใหม่ในการเป็นสายการบินระดับภูมิภาคได้อย่างแท้จริง นี่จะไม่ใช่แค่ “การกลับมา” แต่คือ “การเกิดใหม่” อย่างมีศักดิ์ศรี บนเวทีการแข่งขันระดับโลก
อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังการกู้วิกฤติล้มละลาย สู่วันที่ฟ้าเริ่มสดใสวันนี้ คุณูปการสำคัญคงต้องยกให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กล้าตัดสินใจในวันนั้น