เสือตัวที่ 6
แนวรบในสงครามบนพื้นที่สมรภูมิชายแดนใต้ปลายด้ามขวานที่ยืดเยื้อมา 21 ปี ยังคงโหมไฟแห่งสงครามโดยกลุ่มคนในขบวนการที่เรียกว่ากลุ่มอาชญากรรม BRN ที่ขับเคลื่อนทำสงครามสู้รบกับรัฐไทยอย่างเอาจริงเอาจังและเพิ่มความเข้มข้นในการต่อสู้ตลอดแนวรบทั้งแนวรบในพื้นที่จนเข้าขั้นแดนมิคสัญญีก็ว่าได้ ด้วยการทำสงครามกองโจร ที่ใช้การปฏิบัติการโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐตลอดจนพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วยอาวุธสงครามร้ายแรงอย่างโหดเหี้ยมและหนักหน่วงขึ้นทุกวัน ควบคู่กับแนวรบในระดับนโยบายรัฐทั้งในรัฐสภาและแนวรบทางวิชาการในอุดมศึกษาอย่างสอดประสานกันจนเป็นท้วงทำนองเดียวกันที่ทรงพลังยิ่ง ในขณะที่หน่วยงานระดับนโยบายของรัฐโดยเฉพาะในส่วนกลางยังสับสนกับกลยุทธ์การต่อสู้กับรัฐว่าขบวนการร้ายแห่งนี้เป็นใครกันแน่ คนกลุ่มนี้ต้องการอะไร และจะใช้วิธีการใดในการยุติความเลวร้ายในพื้นที่ปลายด้ามขวานแห่งนี้ได้ ความสับสนมึนงงของรัฐเหล่านี้จึงส่งผลให้รัฐไม่สามารถกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การต่อสู้กับขบวนการแย่งชิงอำนาจรัฐเหล่านี้ได้ และส่งผลให้หน่วยงานระดับพื้นที่ของรัฐขาดพลังในการต่อสู้กับคนร้ายกลุ่มนี้ ด้วยไม่สามารถดึงศักยภาพที่เหนือกว่ากลุ่มคนร้ายในพื้นที่มาใช้ได้อย่างสูงสุด ซึ่งนั่นจึงทำให้กลุ่มอาชญากรรม BRN เกิดความเหิมเกริมไล่ล่า เข่นฆ่าเจ้าหน้าที่รัฐ ตลอดจนประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นว่าเล่นเข้าข่ายรัฐล้มเหลวด้วยไม่สามารถทำให้คนปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐได้
ความเลวร้ายเดินหน้ามาจนถึง ณ ห้วงเวลานี้ เป็นการกระทำของกลุ่มอาชญากรรม BRN ที่หมายจะแย่งยึดดินแดนและอธิปไตยของรัฐด้วยการใช้กลยุทธ์ต่อสู้ด้วยอาวุธคู่ขนานกับการเจรจาต่อรองกับรัฐโดยแอบอ้างวาทกรรมสันติภาพมาบังหน้า สร้างความสับสนให้ระดับนโยบายของรัฐสับสนในวาทกรรมการต่อสู้ว่าจะเดินหน้าแก้ปัญหาความรุนแรงด้วยการเจรจาพูดคุยสันติสุขเพื่อหวังสร้างสันติภาพคามที่ BRN ลวงตาให้เข้าใจอย่างนั้น ในขณะที่กลุ่ม BRN ยังคงเดินหน้าใช้กลยุทธ์ใช้สงครามกองโจรปฏิบัติการทำลายล้างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนที่ไม่ให้ความร่วมมือกับขบวนการอย่างเข้มข้น ทำให้เกิดปรากฏการณ์การทำสงครามด้วยอาวุธมากขึ้นเป็นลำดับ ชีวิตเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนผู้บริสุทธิ์จึงตกอยู่ในอันตรายในทุกวันโดยไม่เป็นธรรม จากการปล่อยปละละเลยของรัฐที่ไม่เอาจริงเอาจังและไม่ชัดเจนในการแก้ปัญหาไฟใต้ที่โหมกระพือมากขึ้นทุกวัน
ปรากฏการณ์แห่งสงครามบนแนวรบพื้นที่ปลายด้ามขวานจึงมีเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ 8 มิ.ย.68 เกิดเหตุระเบิดในย่านการค้า กลางเมืองปัตตานี 2 จุด จุดแรก เกิดเหตุระเบิด บริเวณหน้าตลาดโต้รุ่ง จุดที่สอง บริเวณซอยข้างโรงแรมจงอา หลังตลาดโต้รุ่ง สร้างความตื่นตระหนกของคนในพื้นที่ ทำลายล้างอำนาจรัฐไทยให้คนในพื้นที่เห็นว่า BRN คือผู้มีอำนาจเหนือดินแดนแห่งนี้ที่แท้จริง และบ่งบอกว่าหากต้องการสันติภาพความสงบ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแล้ว คนในพื้นที่ต้องเป็นฝ่าย BRN นอกจากนั้น กลุ่มอาชญากรรม BRN ยังมุ่งมั่นทำการรบตลอดแนวรบบนพื้นที่มิคสัญญีแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อ 14 มิ.ย.68 กองโจรในองค์กรอาชญากรรม BRN ปฏิบัติการเข่นฆ่าทำลายล้างชีวิตผู้คนด้วยการแอบลอบวางระเบิด และยิงซ้ำด้วยอาวุธสงครามร้ายแรงต่อเจ้าหน้าที่ทหารพราน 4916 (ชุดจรยุทธ์) บริเวณหัวสะพาน ม.2 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารพราน เสียชีวิต จำนวน 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 5 นาย ทั้งที่บุคคลเหล่านี้ กำลังเดินทางกลับจากการรักษากฎหมายเพื่อนำความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ การกระทำของกองโจร BRN ยังเป็นการท้าทายอำนาจรัฐด้วยการโจมตีด้วยอาวุธสงครามร้ายแรง เป็นการละเมิดอธิปไตยตลอดจนบูรณภาพแห่งดินแดนของรัฐไทยที่ชัดเจนยิ่ง และเมื่อตรวจที่เกิดเหตุโจมตีกลุ่มทหารพรานดังกล่าวแล้ว พบปลอกกระสุนปืน ขนาด 5.56 มม. ซึ่งใช้กับอาวุธ M16 และปลอกกระสุนปืน ขนาด 7.62 มม. ซึ่งใช้กับอาวุธขนาดใหญ่ที่ใช้ประจำหน่วยรบ M60 โดยการใช้อาวุธเหล่านี้เป็นการตอกย้ำว่า BRN ทำการรบเข้าสู่สภาวะสงครามกับรัฐที่ต้องได้รับการปฏิบัติการตอบโต้จากรัฐในระดับเดียวกันเพื่อรักษาอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของรัฐให้คงอยู่ต่อไป
และเมื่อค่ำของวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนท.รัฐตรวจพบโดรนต้องสงสัย 2 ลำ บรรจุในกล่องขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์ดัดแปลงติดตั้งให้กลายเป็นโดรนทิ้งระเบิด มีอุปกรณ์ดัดแปลงติดตั้งลูกระเบิดขนาด 60 มิลลิเมตร จำนวน 6 ช่อง พร้อมกลไกในการปล่อยลูกระเบิดซึ่งถูกฝังดินไว้บริเวณใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย พื้นที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา แม้การใช้โดรนของกลุ่มอาชญากรรม BRN ในพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา จะไม่ถึงขั้นมีการนำโดรนติดอาวุธทิ้งระเบิด แต่หลายครั้งเจ้าหน้าที่รัฐก็เคยพบการนำโดรนมาใช้ในการติดกล้อง ถ่ายภาพ สอดแนม หาข่าวฐานที่ตั้งของฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบข้อมูล แล้วนำมาวางแผนก่อนบุกโจมตีทางภาคพื้นดิน อาทิ เจ้าหน้าที่ได้พบเห็นโดรนต้องสงสัยบินวนรอบๆ ฐานในช่วงเวลากลางดึก ก่อนโจมตีฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) บาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา จนทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
วิวัฒนาการการต่อสู้เพื่อแย่งชิงดินแดนและอธิปไตยของรัฐมีอย่างต่อเนื่อง และเต็มไปด้วยความแข็งกร้าวในการทำการรบรุนแรงมากขึ้น ทั้งวิธีคิดหรือที่เรียกว่าการต่อสู้ทางความคิดอันแหลมคมและการใช้อาวุธในการทำสงครามที่มีทั้งอาวุธสงครามด้วยอาวุธประจำกายอย่าง M16 สู่อาวุธประจำหน่วยที่มีอานุภาพทำลายล้างมากขึ้น อย่าง M60 ตลอดจนอาวุธซุ่มยิงลอบสังหารบุคคลอย่าง Sniper สู่การใช้ โดรนถ่ายภาพสอดแนมหาข่าวก่อนโจมตีภาคพื้นดินที่เคยใช้มา ล่าสุดบ่งชี้ได้ค่อนข้างชัดว่าโดรนที่ตรวจพบเป็นโดรนดัดแปลงสำหรับทิ้งระเบิด เตรียมไว้ใช้สำหรับโจมตีเป้าหมายทางอากาศ อันเป็นสัญญาณที่ตอกย้ำชัดเจนว่า กลุ่มอาชญากรรม BRN กำลังยกระดับการรบเข้าสู่ภาวะสงครามอย่างเต็มรูปแบบ เป็นการกระทำเยี่ยงคู่สงครามกับรัฐไทยที่กำลังท้าทายอธิปไตยของรัฐที่ผู้มีอำนาจรัฐจะนิ่งเฉยหรือมัวยึดมั่นในวาทกรรมว่าสันติภาพเป็นทางออกของปัญหาเพียงอย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไป