สภาพการณ์ของ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการ ณ เวลานี้ต้องยอมรับว่า เจอศึกหนักรอบด้าน  

 ปัญหาการเมืองที่สาหัส  เพราะแม้พรรคเพื่อไทย จะสามารถเขี่ย “พรรคภูมิใจไทย” พ้นจากรัฐบาลได้แล้วก็ตาม และสามารถยึด “กระทรวงมหาดไทย” เอามาไว้ในมือได้ตามต้องการ เพียงแค่รอให้ทุกอย่างเป็นทางการตามมาเท่านั้นก็ตาม 


 แต่อย่าลืมว่า การเขี่ยพรรคภูมิใจไทย ออกไป  ไม่เพียงแต่จะทำให้รัฐบาลผสม เสีย “69 สส.” ของพรรคภูมิใจไทยไปเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการ “สร้างศัตรู” ในยามที่ตัวเอง “อ่อนแอ”  จริงอยู่แม้  “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ถ่ายทอดความมั่นใจไปยัง “แกนนำรัฐบาล” ของเพื่อไทย ว่าจะไม่มีปัญหาแม้ จากนี้จะเป็นรัฐบาล “เสียงปริ่มน้ำ” 
 
 แต่อย่าลืมว่า การแตกหักระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย เมื่อจังหวะที่รัฐบาลเริ่ม “นับถอยหลัง”  เหลือเวลาอีกไม่นาน การเลือกตั้งครั้งใหม่จะมาถึง และยังไม่มีใครการันตีได้ว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะได้ “กระทรวงมหาดไทย” เอาไว้ในมือตามต้องการแล้ว  จะทำให้พรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งอย่างเบ็ดเสร็จจริงหรือไม่ 

 จาก “มิตร” ที่ต้องแปรเปลี่ยนไปเป็น “ศัตรู” ทั้งที่ต่างฝ่ายต่างมี “ดาบ” ปักหลังกันคนเล่ม  เช่นนี้อาจหมายความว่า หลังการปรับครม.เสร็จสิ้นกระบวนความไปแล้ว ศัตรู อย่าง ภูมิใจไทยคงไม่อยู่นิ่งเฉย แต่อย่างไรก็ดี พรรคเพื่อไทยที่ต้องการคุมกระทรวงมหาดไทยนั้น นอกเหนือไปจากความพยายามผลักดันร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์   แล้วอย่าลืมว่า กรณีปัญหาเรื่องดินอัลไพน์ ที่มีนายกฯแพทองธาร เข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ก็อยู่ในมือของมหาดไทย 

 นอกจากปัญหาทางการเมือง ที่รุมเร้านายกฯแพทองธาร อย่างรุนแรง ณ เวลานี้ จากปมการปรับครม.ที่ต้องฉีกปฏิญญาช็อกมินต์ จนทำให้พรรคเพื่อไทย และภูมิใจไทย ต่างคนต่างไป ยังปรากฏว่าผู้นำรัฐบาลยังเจอปัญหา “คลิปเสียงหลุด” อันเป็นการสนทนาระหว่างเธอเองกับสมเด็จ ฮุน เซน ในเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย -กัมพูชา นอกจากนี้ยังพาดพิงไปถึง “แม่ทัพภาคที่ 2” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่  

 ระหว่างปัญหาทางการเมืองที่จบอย่างสะเด็ดน้ำ กำลังถูกซ้ำเติมด้วย คลิปเสียงหลุด ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นเสียงตัวเอง แต่เป็นการเจรจา หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกำลังกลายเป็นแรงกดดันให้แพทองธาร ต้องลาออกเพื่อรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น