เสือตัวที่ 6

การก่ออาชญากรรมเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ทั้งพี่น้องไทยพุทธและมุสลิม ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมทั้งคนสูงอายุ ทั้งชายและหญิง ทั้งคนปกติและคนพิการ ทำลายความสงบสุขตลอดจนเหนี่ยวรั้งความเจริญรวมทั้งทำลายอนาคตอันสดใสทัดเทียมคนในพื้นที่อื่นของประเทศนั้น ล้วนเกิดจากน้ำมือของกลุ่มคนร้ายที่ชื่อว่ากลุ่มขบวนการ BRN ที่นับวันจะเหิมเกริม โหดร้ายเกินกว่ามนุษย์ปกติจะยอมรับได้ โดยกลุ่มอาชญากรรม BRN เร่งสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงที่กระทบต่อเอกภาพแห่งดินแดนตลอดจนท้าทายอำนาจอธิปไตยของรัฐอย่างโจ่งแจ้งตลอดมา การเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์เป็นว่าเล่นโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ท้าทายอำนาจรัฐอย่างชัดเจนเยี่ยงองค์กรก่อการร้ายทำลายความมั่นคงของรัฐในทุกมิติ การกระทำขององค์กรอาชญากรรม BRN เป็นการก่อการร้ายอย่างชัดเจนที่สุด โดยเมื่อ 28 พ.ค.2568 กองโจรก่อการร้าย BRN ได้ลงมือปฏิบัติการโจมตีสถานีตำรวจจะแนะ จ.นราธิวาส อันเป็นสถานที่ของรัฐซึ่งมีหน้าที่รักษาความสงบสุขของผู้คนในพื้นที่และรักษากฎหมายของรัฐโดยตรง หากแต่องค์กรอาชญากรรม BRN ได้ซ่องสุมกำลังติดอาวุธและปฏิบัติการร้ายเยี่ยงกองโจรในสงครามนอกแบบ กองโจร BRN ได้รวมกำลังติดอาวุธร้ายแรง โจมตีโรงพักจะแนะ ด้วยอาวุธสงครามนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาวุธประจำกาย M.16 อาวุธ AK-47 (อากา) จนถึงขั้นอาวุธประจำหน่วยที่มีอานุภาพทำลายล้างร้ายแรงอย่าง M.60 ที่ใช้กระสุนขนาดใหญ่ขนาด 7.62 ที่สามารถเจาะทะลุเสื้อเกราะ ยานยนต์ และฝาผนังขนาดหนาๆ ได้ ด้วยกระสุนนับหลายร้อยนัด จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะแนะ เสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 1  นาย ทั้งกองโจร BRN เหล่านี้ สามารถหลบหนีอย่างไร้ร้องรอยไปได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

นับเป็นครั้งแรกขององค์กรอาชญากรรม BRN ที่นำอาวุธสงครามขนาดใหญ่เช่น M.60 มาใช้ในการก่อการร้ายกับหน่วยงานความมั่นคงของรัฐอย่างอุกอาจยิ่ง และเป็นการรวมกำลังของกองโจรเป็นทีมปฏิบัติการร้ายที่มีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ มีการฝึกการปฏิบัติและการใช้อาวุธสงครามอย่างชำนาญเยี่ยงนักรบในสงคราม อีกทั้งมีการปกปิดด้านการข่าวทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการก่อการร้ายได้อย่างเหลือเชื่อ แสดงให้เห็นถึงมวลชนในพื้นที่ จชต,ตกเป็นแนวร่วมขององค์กรก่อการร้าย BRN อย่างสนิทแนบแน่น เพราะการโจมตีโรงพัก จะแนะ ครั้งนี้ กองโจร BRN มีการเตรียมการเป็นอย่างดี ใช้พื้นที่ชุมชนอาคารบ้านเรือนของคนในพื้นที่เป็นที่ตั้งการโจมตี ตั้งฐานยิงปืน M.60 ที่ซ่อนพรางการตรวจพบการเตรียมการ และป้องกันการตอบโต้จากเจ้าหน้าที่รัฐเพราะหากเจ้าหน้าที่รัฐยิงตอบโต้ไปยังพื้นที่ดังกล่าว จะทำให้ชาวบ้านสูญเสีย ซึ่งกองโจร BRN จะสามารถนำมาใช้ปลุกระดมชาวบ้านได้อีก นั่นก็หมายความว่ากองโจร BRN ตกต่ำทางความคิด เลวร้ายถึงขั้นใช้ชาวบ้านเป็นโล่มนุษย์ในการปฏิบัติการชั่วร้ายครั้งนี้

การโจมตี จนท.รัฐถึงที่ตั้งหน่วย ขององค์กรอาชญากรรม BRN ที่ใช้ยุทธวิธีกองโจรติดอาวุธ โดยใช้การโจมตีด้วยอาวุธสงครามร้ายแรงอย่าง M.60 ซึ่งเป็นอาวุธประจำหน่วยขนาดใหญ่ที่มีอำนาจทำลายล้างสูงได้ในวงกว้าง โดยทำการยิงมาจากชุมชนอาคารบ้านพักอาศัยฝั่งตรงข้ามโรงพักซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่ เพื่อจำกัดการยิงตอบโต้ของ จนท.รัฐ และหวังจะให้เจ้าหน้าที่รัฐยิงตอบโต้มายังพื้นที่บ้านพักชุมชนดังกล่าวเพื่อหวังจะให้มีชาวไทยมุสลิมเกิดการสูญเสีย จึงเป็นประเด็นที่ควรประณามการกระทำอันชั่วร้ายของกองโจรและผู้สั่งการของอาชญากรรม BRN อย่างรุนแรงที่สุด การกระทำของกองโจร BRN ครั้งนี้ เลวร้ายตกต่ำอย่างที่สุด ที่ BRN มีเจตนาชัดเจนในความต้องการที่ใช้ผู้คนบริสุทธิ์เป็นโล่มนุษย์ เจตนาให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อ โดยหวังจะใช้การสูญเสียของมุสลิมผู้บริสุทธิ์ครั้งนี้เป็นเงื่อนไขในการปลุกระดมความเกลียดชังสร้างความแตกแยกกับคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศให้ออกห่างกันมากขึ้นเฉกเช่นหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา 

ความเลวร้ายของการต่อสู้ได้พัฒนามาเป็นลำดับ แกนนำผู้กำหนดนโยบายการต่อสู้เพื่อแย่งยึดอำนาจรัฐมาเป็นของ BRN ยังคงแน่วแน่ชัดเจนอย่างมียุทธศาสตร์ การต่อสู้กับรัฐเพื่อแย่งยึดอำนาจรัฐได้เดินหน้าไปสู่สถานการณ์สงครามอย่างเห็นได้ชัด การเข่นฆ่าทำลายล้างชีวิตผู้คนมีความโหดเหี้ยมและชั่วร้ายมากขึ้นไม่เว้นแม้กระทั่ง เด็ก สตรี คนสูงอายุ คนพิการ และนักบวช การใช้อาวุธในการก่อการร้ายมีความเข้มข้นและร้ายแรงมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นอาวุธพลซุ่มยิง (Sniper) และ อาวุธประจำหน่วยที่มีอำนาจทำลายล้างสูงอย่าง M.60 การโจมตีแบบตีโฉบฉวยอันเป็นยุทธวิธีการรบแบบกองโจรในสงครามนอกแบบซึ่งต้องมีการฝึกเป็นอย่างดี และสามารถปิดลับการฝึกกองโจรได้อย่างแนบเนียนจนมีความพร้อมปฏิบัติการโจมตีโรงพักจะแนะได้เป็นผลสำเร็จตามแผนร้ายนี้อย่างสมบูรณ์ระดับ 100% การใช้ยุทธวิธีอันชั่วร้ายของกองโจร BRN ที่ตกต่ำถึงขั้นเจตนาใช้พี่น้องชาวไทยมุสลิมเป็นโล่มนุษย์เพื่อจำกัดการยิงตอบโต้ของเจ้าหน้าที่รัฐ และเจตนาใช้ชาวบ้านตกเป็นเหยื่อการสูญเสียเพื่อใช้ปลุกระดมผู้คนให้เป็นแนวร่วมต่อสู้ยื้อแย่งอำนาจรัฐต่อไป

ในขณะที่ผู้นำด้านความมั่นคงของรัฐยังมองปรากฏการณ์ความเลวร้ายในพื้นที่ปลายด้ามขวานไม่ออกว่าเกิดจากอะไร ใครเป็นคู่ขัดแย้งกับรัฐ อันนำมาซึ่งความไม่ชัดเจนว่าจะกำหนดแนวนโยบายในการต่อสู้เพื่อนำความสงบสุขมาสู่พี่น้องชาวไทยในพื้นที่แห่งนี้ ทำให้หน่วยระดับปฏิบัติตั้งแต่ กอ.รมน.ภาค 4 ลงไป ต้องอยู่ในสภาพตั้งรับกองโจร BRN อย่างเดียวดายไร้อนาคต การลงพื้นที่ของคนระดับนโยบายที่ยังต้องการฟังข้อมูลจากผู้ปฏิบัติงานโดยตรงว่าเกิดอะไรขึ้น โดยอ้างว่าเนื่องจากข้อมูลข้อเท็จจริงมีมุมมองที่แตกต่างหลากหลาย จึงอยากให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น นั่นก็แสดงให้เห็นว่า คนระดับนโยบายของรัฐ ยังสับสนในปรากฏการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ ยังไม่รู้ว่าใครคือคู่ขัดแย้งกับรัฐ ยังไม่แน่ใจว่าปัญหาความเลวร้ายในพื้นที่นั้นเกิดจากเงื่อนไขใด ยังมองไม่ออกว่าสถานการณ์ในพื้นที่เข้าขั้นสถานการณ์สงครามนอกแบบแล้ว เหล่านี้คือต้นเหตุที่รัฐยังไม่สามารถกำหนดแนวทาง ไม่สามารถกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ในการยุติความขัดแย้งได้อย่างถูกฝาถูกตัว

หากแต่แท้จริงแล้วการต่อสู้กับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ปลายด้ามขวานนั้นจะสำเร็จลงได้ รัฐต้องตระหนักรู้ให้ชัดว่าคู่ขัดแย้งในการต่อสู้ครั้งนี้ก็คือ กลุ่ม BRN และการกระทำของกลุ่ม BRN เป็นการกระทำเข่นฆ่าผู้คนอันโหดเหี้ยมเกินมนุษย์ที่เข้าข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เพราะมีฐานบัญชาการอยู่ในพื้นที่ประเทศมาเลเซีย ทั้งมีการปลุกระดมผู้คนให้หลงผิดเข้าร่วมกันแย่งยึดอำนาจอธิปไตยของรัฐอย่างเป็นระบบ มีการซ่องสุมและใช้กองกำลังติดอาวุธเข้าทำลายล้างผู้บริสุทธิ์อย่างเป็นขบวนการด้วยอาวุธสงครามร้ายแรง การต่อสู้เข้าสู่สถานการณ์สงครามอย่างชัดเจน โดยทำการรบตามยุทธวิธีกองโจรในสงครามนอกแบบ ซึ่งรัฐต้องตีโจทย์ให้แตกเพื่อกำหนดนโยบายการต่อสู้เพื่อเอาชนะกลุ่มอาชญากรรม BRN ให้ชัดเจนเสียที