จากเหตุการณ์ที่ภรรยาโพสต์ตามหาสามีที่หายออกจากบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ โดยไม่มีเบาะแสหรือร่องรอยใดๆ จนโลกออนไลน์ช่วยกันแชร์ข้อมูล กระทั่งพบว่าสามีของเธอปรากฏตัวที่จังหวัดระยอง โดยที่เจ้าตัวไม่สามารถอธิบายได้ว่าเดินทางมาได้อย่างไร กลายเป็นกรณีตัวอย่างของ Dissociative Identity Disorder (DID) หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า โรคหลายอัตลักษณ์

ภรรยาเล่าผ่านโพสต์ว่า ก่อนหายตัวไป สามีมีอาการง่วง มึนงง แล้วเหมือน “หมดสติ” ไป หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลย รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อมีคนปลุกบนรถตู้โดยสาร เมื่อลงจากรถจึงรีบขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งประสานงานจนสามารถติดต่อกลับมาหาภรรยาได้

แม้ขณะนี้สามีกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว แต่เขายังไม่สามารถจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างที่หายตัวไปได้เลยแม้แต่น้อย

DID หรือโรคหลายอัตลักษณ์คืออะไร?

DID (Dissociative Identity Disorder) หรือ โรคหลายอัตลักษณ์ เป็นภาวะทางจิตเวชที่ทำให้ผู้ป่วยมี “อัตลักษณ์” หรือบุคลิกภาพมากกว่าหนึ่งภายในร่างกายเดียว โดยบุคลิกเหล่านี้อาจมีลักษณะแตกต่างกัน เช่น เพศ อายุ อารมณ์ ความคิด และพฤติกรรม เมื่อบุคลิกใดบุคลิกหนึ่งเข้าควบคุม พฤติกรรมของผู้ป่วยจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และเจ้าตัวมักไม่รู้ตัว

สาเหตุของโรค DID

โรคนี้มักมีต้นเหตุมาจากประสบการณ์รุนแรงในวัยเด็ก เช่น

ถูกทำร้ายทางร่างกายหรือจิตใจ

ถูกล่วงละเมิดทางเพศ

ประสบเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจรุนแรง เช่น อุบัติเหตุ หรือสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก

ในหลายกรณี ภาวะนี้อาจเกิดขึ้นซ้ำ และบางคนอาจไม่สามารถฟื้นคืนอัตลักษณ์เดิมได้อีกเลย

หลายคนอาจคุ้นเคยกับโรคนี้ผ่านภาพยนตร์หรือซีรีส์ เช่น

Split ตัวละคร “Kevin”

Moon Knight ฮีโร่มาร์เวลที่มีหลายบุคลิก

Gollum จาก The Lord of the Rings

แม้ในสื่อบันเทิงจะมีการเล่าเรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่ในความเป็นจริง DID คือภาวะทางจิตเวชที่ต้องการความเข้าใจจากครอบครัวและสังคมอย่างยิ่ง

ส่วนนักการเมืองที่มีพฤติกรรมหน้าอย่างหลังอย่าง ฉากหน้ารักกันดูดดื่ม ลับหลังแทงกันเลือดสาดนั้น ไม่เข้าข่ายโรคหลายอัตลักษณ์ หนักไปทางคนที่เชื่อถือไม่ได้