ความขัดแย้งวุ่นวายตึงเครียด ที่เขม็งเกลียวอยู่ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งประเทศไทยและระดับโลก จะยุติหรือลงเอยได้อย่างไร ในหลักพุทธศาสนา “สยามรัฐ” ขอหยิบยก คติธรรมของ พระธรรมโกศาจารย์ หรือ พุทธทาสภิกขุ ที่ได้บรรยายไว่ในการอบรมตำรวจและนักเรียนการเมือง 14 จังหวัดภาคใต้ รุ่น 2 ปี พ.ศ. 2526 ครั้ง 1 เรื่อง การระงับความขัดแย้งด้วยสัมมาทิฏฐิ เพื่อเป็นข้อคิดของทุกฝ่ายดังนี้

“โลกปัจจุบันนี้เป็นโลกแห่งความขัดแย้งอย่างไร ถ้าเราจะมองดูกันทีเดียวทั้งโลกมันก็เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ระหว่างค่ายใหญ่ๆ ระหว่างพวกใหญ่ๆขัดแย้งกันอยู่ แม้ในระหว่างพวกกันเองในค่ายหนึ่งๆมันก็มีความขัดแย้ง แล้วมีความขัดแย้งในประเทศ มีความขัดแย้งในบ้านเมือง มีความขัดแย้งในครอบครัว หรือจะพูดว่าในตัวคนๆหนึ่งมันก็มีความขัดแย้ง หมายความว่าเมื่อมันไม่เรียบร้อย เมื่อมันไม่ถูกต้อง เมื่อใดมันไม่มีความถูกต้องเมื่อนั้นมันก็มีไอ้ความขัดแย้ง

ถ้าในร่างกายมันขัดแย้งเกิดขึ้นในร่างกายมันก็คือความเจ็บไข้หรือความเสียหายอย่างใดอย่างหนึ่ง นี่ความขัดแย้ง ไปมีที่ไหน อุปทฺทว มันจะมีที่นั่น ดังนั้นมันจึงทนไม่ได้ จึงต้องต่อสู้เพื่อแก้ไขไอ้ความขัดแย้ง แต่แล้วก็มันน่าหัวที่ว่าเราไม่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งของโลกแหละ ท่านทั้งหลายมองดูเองเถิดว่ามันขัดแย้งกันถึงขนาดที่ยังไม่มีใครจะแก้ไขหรือแม้แต่จะบรรเทา อย่าว่าแต่จะให้เลิกร้างไปเลยแม้แต่จะบรรเทาก็ไม่ได้ เพราะมันมีอะไรอยู่ลึกๆ ในส่วนลึกที่ทำให้เราแก้ไขไม่ได้ นั่นแหละคือสิ่งที่เราจะต้องพิจารณาดู

ในฐานะที่อาตมาเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ไม่มีความรู้อย่างอื่นหรอก นอกจากความรู้ตามที่พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้อย่างไร เดี๋ยวนี้พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้ว่าแก้ไขได้ด้วยสัมมาทิฏฐิ เราจะแก้ไขความขัดแย้งทุกชนิดแหละด้วยสัมมาทิฏฐิ แม้แต่จะแก้ไขความขัดแย้งในร่างกายที่มันไม่ถูกต้อง แล้วมันเจ็บป่วยขึ้นมาหรือมันเป็นอะไรขึ้นมา มันมีกิเลสเกิดขึ้นมาอะไรขึ้นมาเหล่านี้เรียกว่าเป็นความขัดแย้ง เป็น อุปทฺทว ในร่างกาย ฉะนั้นก็ต้องแก้ด้วยสัมมาทิฏฐิคือความเข้าใจอันถูกต้อง

จะแก้ไขปัญหาของหมู่บ้าน ของตำบล ของจังหวัด ของประเทศมันก็จะต้องด้วยความเข้าใจอันถูกต้องว่าอะไรมันเป็นอะไร แต่จะเข้า จะแก้ไขโลกนี้มันก็เรียกว่ามันไกล มันไม่อยู่ในอำนาจของเรา เราก็ได้แต่ช่วยกันต่อสู้ต้านทานไปตามกำลัง แม้ที่สุดแต่การโวยนี่ อุตส่าห์โวยไว้ก็ยังดีกว่าไม่มีใครจะโวยเสียเลย เพื่อต่อต้านความขัดแย้งในโลก จะต้องทำให้เกิดสัมมาทิฏฐิความเข้าใจอันถูกต้องขึ้นมา ความถูกต้องนั้น สัมมาทิฏฐินั้นท่านพูดไว้เหมือนกับกำปั้นทุบดินแหละ มันไม่มีทางผิดหรอก คือว่า

ให้รู้ว่าอะไรเป็นความทุกข์หรือตัวปัญหา อะไรเป็นเหตุของความทุกข์หรือเหตุของปัญหา อะไรเป็นทางดับของปัญหา อะไรเป็นวิธีให้ถึงไอ้การดับของปัญหาหรือของความทุกข์ ถ้ารู้ครบอย่างนี้ก็เรียกว่ามีสัมมาทิฏฐิ รู้โดยรายละเอียดว่าปัญหาหรือความทุกข์ก็ตามมันค่อยเกิดขึ้นอย่างไรค่อยอย่างไรตามลำดับๆ กระทั่งว่าความทุกข์หรือปัญหานั้นมันจะสูญสิ้นไป มันจะค่อยๆ หดหายไปอย่างไรตามลำดับ ถ้ารู้หมดนี้ก็เรียกว่ามีสัมมาทิฏฐิ

เดี๋ยวนี้ความขัดแย้งได้เกิดขึ้นก็เพราะตรงกันข้าม คือมิจฉาทิฏฐิ สัมมาทิฏฐิมันเป็นไปในทางถูกต้องตามที่เป็นจริง ส่วนมิจฉาทิฏฐินั้นมันไม่รู้หรือมันรู้ผิด การรู้ผิดมีผลเท่ากับไม่รู้ มันก็เลยไม่มีแสงสว่างพอที่จะแก้ปัญหาอะไรได้”

( ที่มา : เพจหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ - สวนโมกข์กรุงเทพ วันที่ 10 ธันวาคม 2559)