“ดีลลับ” ที่ยืนระยะมาเป็นเวลาเกือบสองปี จะถึงคราว “ถูกล้ม” แล้วหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหน้า คือการเดิน “ผิดจังหวะ” จากฟาก “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งกรณีปม “ชั้น14” พ่วงด้วย “คดีมาตรา112”

 8 พ.ค.68 ที่ผ่านมา เกิดความเคลื่อนไหวที่เชื่อมโยงไปยังตัวอดีตนายกฯทักษิณ  ด้วยกันทั้งสองประเด็นร้อนๆ

 ด้านหนึ่งมีการประชุม “ คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่” ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อพิจารณาวาระการนำเสนอผลสรุปการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกลั่นกรองของแพทยสภา กรณีการพักรักษาตัวของทักษิณ ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ

 ตามขั้นตอนแล้ว เมื่อที่ประชุมมีมติออกมาเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง จะนำเข้าที่ประชุมสภานายกพิเศษ ที่มี “สมศักดิ์ เพพสุทิน”  รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกสภาพิเศษ เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นตามมติที่ประชุมกรรมการแพทยสภา หรือมีความเห็นแย้งหรือไม่ ภายในระยะเวลา 15 วัน ซึ่งวาระดังกล่าวจะไปเชื่อมโยงกับคดีปมชั้น 14

 และในวันเดียวกัน ทักษิณ ได้เดินทางไปยังศาลอาญา เพื่อรอลุ้นว่าคำร้องที่ยื่นขอเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งประเด็นนี้อยู่ในความสนใจและถูกจับตามาโดยตลอดว่าทักษิณ จะอยู่สู้ต่อ หรือหาทางออกนอกประเทศ 

 แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่บ่งชี้มากพอว่า “สัญญาณ” ที่ออกมานั้นในทางคดีความ “ไม่สู้ดี” เท่าใดนัก !

 ภารกิจที่อยู่บนบ่าของอดีตนายกฯทักษิณ ที่ต้องพยายามทำให้สำเร็จ นั่นคือการพา “น้องสาว” คือ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ได้กลับบ้านเท่านั้น หลังจากที่ตนเองได้โอกาสเดินทางกลับบ้าน ส่วนพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล และส่ง “ลูกสาว” นั่ง นายกฯคนที่ 31

ที่ยังเหลืออยู่ ณ วันนี้คือการพาน้องกลับบ้านที่ยังคงเป็นความหวัง  ที่ยังไม่เกิดขึ้น ส่วนภารกิจสำคัญคือการกอบกู้พรรคเพื่อไทยให้กลับมาผงาดในการเลือกตั้งรอบหน้า 2570 แต่เมื่อทั้งพรรคเพื่อไทย -นายกฯแพทองธาร และแม้แต่ยิ่งลักษณ์ ล้วนผูกติดเอาไว้กับชะตากรรมของทักษิณ เอง จึงยังเป็นเรื่องที่จะสรุปได้ว่า สัญญาณที่ปรากฎออกมาเวลานี้ จะทำให้ทักษิณ ยังสู้ต่อ !