การปรับครม. จะเกิดขึ้นเมื่อใด หากไปถาม นายกฯอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คงยังให้คำตอบเหมือนเดิมในท่วงทำนองว่าทุกอย่างยังปกติและเป็นสิ่งที่ผู้นำรัฐบาลเอง ได้เคยย้ำมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง


 แต่กระนั้น ยังเกิดข่าวลือที่ผุดขึ้นมาเป็นระลอกๆ ถึงอย่างไร ก็ต้องปรับครม.แน่นอน จะช้าหรือเร็วก็แค่นั้น เพราะสถานการณ์ของรัฐบาล แพทองธาร 1 แม้จะบริหารงานยังไม่ทันครบขวบปี แต่ต้องนับรวมว่าเป็นรัฐบาลที่ต่อจาก เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯคนที่ 30 ซึ่งอยู่ในพรรคเพื่อไทยเช่นเดียวกัน 


 ณ เวลานี้หากมองในแง่ดี อายุรัฐบาล ยังเหลีออีก2ปี แต่ในมุมกลับกัน หากมองในทางลบ อย่าลืมว่า บัดนี้เวลาของรัฐบาล เริ่มนับถอยหลังแล้วเช่นกัน !!


 และยังจะไปบรรจบเข้ากับปัญหา คดีความ ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ  ผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทย และนายกฯแพทองธาร เมื่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งศาล ฯ ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้  หลังจากที่ศาลฯเพิ่งมีคำสั่งไต่ส่วน กรณี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่ง ทักษิณ เข้าไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลตำรวจ บนชั้น 14 ที่ผ่านมานั้นชอบหรือไม่ ?


 ในมุมของสมาชิกพรรคเพื่อไทย มองในแง่ดีว่า อาจเป็นการดีเพราะศาลฎีกาฯ จะได้ทำความจริงนี้ให้กระจ่างเสียที หลังจากที่ ฝ่ายต่อต้าน อดีตนายกฯทักษิณ หยิบฉวยนำไปใช้โจมตีและเขยาเก้าอี้ นายกฯแพทองธาร มาอย่างต่อเนื่อง 


 แต่สำหรับฝ่ายต่อต้านทักษิณ เองย่อมมองในมุมที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ว่ากรณีในลักษณะเช่นนี้ ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติ ที่ทักษิณจะวางใจได้ เพราะการที่ศาลฎีกา นัดไต่สวนเอง แม้จะไม่รับคำร้องของ ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ เอาไว้พิจารณาก็ตาม เนื่องจากชาญชัยไม่ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก็ตาม และแม้ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ทักษิณ เองไม่ต้องเดินทางไปฟังคำสั่งศาลเอง ฯ แต่พรรคเพื่อไทยเองต้องเตรียมรับมืออยู่ดี 


 สถานการณ์ของทักษิณ ที่ยังมีคดีความเป็น บ่วงรัด อยู่เช่นนี้ โดยเฉพาะคดี ชั้น 14 ที่อาจทำให้เขาต้องกลับเข้าเรือนจำ อย่างแท้จริง ยังอาจไปสัมพันธ์ กับ อำนาจต่อรอง เมื่อการปรับครม.มาถึง ทั้งการปรับใหญ่ หรือแม้แต่จะปรับเล็ก ปรับกันเองในพรรคเพื่อไทย ก็ตาม !