ด้วยพระจริยาวัตรอันงดงามของ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ที่แม้จะทรงพระเยาว์และศึกษาอยู่ในต่างประเทศ แต่เมื่อเสด็จฯ กลับประเทศไทย ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่ต่าง ๆ หรือเสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์ ทรงเป็นกันเอง ไม่ถือพระองค์กับพสกนิกรทุกคน จนเกิดเป็นภาพความประทับใจเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ให้ชาวไทยรู้สึกใกล้ชิดพระองค์

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 20 พรรษา “สยามรัฐ” เรียบเรียงพระราชประวัติมานำเสนอโดยสังเขป ดังนี้

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ ทรงประสูติเมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2548 เวลา 18.35 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช ทรงเป็นพระราชโอรสใน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระราชนัดดาใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เมื่อพระชนมายุครบ 1 เดือน ได้มีพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2548 และก่อนหน้านั้นในวันที่ 15 มิถุนายน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ ได้ทรงพระราชทานพระราชหัตถเลขา ขนานพระนามว่า “พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ”

ต่อมาในวันที่ 5 พฤษภาคม 2562 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการสถาปนาและเฉลิมพระนามอย่างเป็นทางการว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร”

เจ้าฟ้าทีปังกรฯ ทรงเริ่มศึกษาที่โรงเรียนจิตรลดา และทรงมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ อาทิ กิจกรรม “สัปดาห์รักการอ่าน” และการอนุรักษ์พลังงาน รวมถึงเสด็จประทานถ้วยรางวัลในงานแข่งขัน “หนูน้อยเจ้าเวหา” เมื่อปี 2555 ปัจจุบัน ทรงศึกษาอยู่ในประเทศเยอรมนี

พระองค์ทรงมีบทบาทในกิจกรรมจิตอาสา เช่น การบำเพ็ญประโยชน์ ทำความสะอาดวัด แจกจ่ายสิ่งของ ทรงประกอบอาหารประทาน และมีความสนพระทัยในพระพุทธศาสนา กีฬา รวมถึงโครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ

อีกทั้งยังทรงเสด็จร่วมกับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระเชษฐภคินี ในการเยี่ยมราษฎรและติดตามโครงการพระราชดำริ

“สยามรัฐ” ขอถวายพระพรชัยมงคล  สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงพระเกษมสำราญ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดกาลนาน ทรงพระเจริญ