การที่ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุกลางวงที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 3/2568  ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่ามี “เกมการเมือง” บิดเบือน ร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่าเป็นเรื่องกาสิโน


  ทั้งที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ประกอบด้วย กาสิโน 10% ของพื้นที่แค่นั้น ดูเหมือนจะเป็นปฏิกิริยา “โต้กลับ” หรือสื่อไปถึงใคร อย่าง “จงใจ” หรือไม่ ? 
 “ อันนี้เป็นเกมการเมือง เป็นการบิดเบือน ในเรื่องของความหมายหรือเจตนา นโยบายนี้อยู่ในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาอยู่แล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งเราจะได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ๆ ทางออกใหม่ๆ” ( 9เม.ย.68) 


 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา เมื่อไม่มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์  ตามที่ นายกฯได้แถลงข่าวกับพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา  โดยจะไปรอเข้าสภาฯในสมัยประชุมหน้านั้น ดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทย และโดยเฉพาะ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ รู้ดีว่า เสียงต่อต้านจากมวลชนนอกสภาฯ ยังไม่สุ่มเสี่ยงและกดดันมากเท่ากับ “มือที่มองไม่เห็น” ในเวทีสภาฯ อันประกอบไปด้วย สส.จากรัฐบาลด้วยกันเอง ที่ปะปนและเดินสวนกันไปมา 


 ดังนั้น การที่ร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ถูกเลื่อนออกไปนั้น จึงอาจไม่ใช่เพียงการที่ “พรรคเพื่อไทย” ในฐานะแกนนำรัฐบาลต้อง “ยอมถอย” เพราะจับอาการได้ว่ามีแรงกระเพื่อมจาก “พรรคร่วมรัฐบาล” ที่ไม่พร้อมส่งนายกฯแพทองธาร ลงไปลุยไฟในสภาฯ  และแรงกระเพื่อมนี้ยังส่งไปเขย่าถึง อดีตนายกฯทักษิณ จนทำให้เจ้าตัวนั่งไม่ติด เพราะมีข่าวสะพัดก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะเลือก “ถอย” ว่าทักษิณ ออกแรงบีบ “พรรคร่วมรัฐบาล” ด้วยการ ขู่จะขับพ้นจากครม. หากไม่โหวตสนับสนุนร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 


 การถอยร่นของพรรคเพื่อไทยจากเกมในสภาฯ รอบนี้ แม้ทั้งนายกฯและรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย จะย้ำว่า “เลื่อน” แต่ไม่ยกเลิก และในระหว่างปิดสมัยประชุมสภาฯ 2เดือนนี้ จะเป็นโอกาสทำให้สส.ได้ลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจกับประชาชนก็ตาม แต่ใครจะการันตีได้ว่า เมื่อสภาฯเปิดขึ้นในรอบหน้า พรรคเพื่อไทยจะยังมีโอกาสลุ้นหรือไม่ !?