ยังไม่ทันที่ “ศึกซักฟอก” จะเริ่มขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่า “พรรคประชาชน” ในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้าน กำลังเจอกับสงครามที่ไร้ร่องรอย แต่อาจบั่นทอนและลดน้ำหนักหมัดที่หวังจะชกให้เข้าเป้าไปยัง “นายกฯอิ๊งค์” เสียแล้ว

            เมื่อพรรคประชาชน กำลังรับมือกับสงครามที่เรียกว่า “แอร์วอร์” เสมือนไม่มีตัวตน แต่กลับมี “พลัง” กระแทกเข้าใส่ ทำเอา “นักชก” ต้องเหนื่อยโดยที่ยังไม่ทันได้ขึ้นสังเวียน

            ข่าวลือข่าวล่า มาเร็ว และสะพัดไปไกล ว่องไวกว่าการตั้งรับของ พรรคประชาชนโถมเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง เมื่อแกนนำของพรรคประชาชน ต้องพากันตอบคำถามประเด็นร้อนๆที่ว่าด้วย “ดีลลับฉบับพิสดาร” ระหว่าง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้มีอิทธิพลของพรรคสีส้ม กับ “เนวิน ชิดชอบ” ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เจ้าของพรรคภูมิใจไทยตัวจริง

            ด้วยการให้พรรคส้ม ล็อคเป้าถล่ม ทั้ง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯหญิง และ “คนในครอบครัวชินวัตร” ซึ่งอาจไม่ใช่เฉพาะ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯเท่านั้น เพื่อแลกกับการที่ ภูมิใจไทยจะส่งสัญญาณไปยัง องค์กรอิสระ อย่าง “คณะกรรมการป.ป.ช.” ซึ่งมีคดี “44 อดีตสส.ก้าวไกล” ที่ร่วมกันลงชื่อแก้ไขม.112 รอลุ้นชะตากรรมว่าจะเข้าข่ายความผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ โดยคดีดังกล่าว ป.ป.ช.เพิ่งออกมาระบุว่า “ไม่เกินครึ่งปี” 2568 นี้ คดีจะได้ข้อสรุป ว่าจะชี้มูล “ใคร” กันบ้างจะ เหมายกเข่ง หรือเลือกฟันเฉพาะ “บางราย” 

            ความจริงแล้ว ข้อสังเกตถึงปฏิบัติการตรวจสอบ ฝ่ายรัฐบาล โดยพรรคประชาชน นั้นถูกจับตากันมาตั้งแต่ก่อนวันที่ฝ่ายค้านจะได้ข้อสรุปว่าในญัตติจะยื่นซักฟอกใครบ้าง จะเป็นนายกฯเพียงคนเดียวหรือ “10รัฐมนตรี” ตามที่ได้เคยประกาศกันเอาไว้

            และเมื่อบทสรุปออกมาที่ว่า เลือกอภิปรายฯ นายกฯเพียงคนเดียว ยิ่งเป็นการตอกย้ำ ข้อสังเกตดังกล่าวว่า พรรคประชาชน “รับงาน” จากพรรคสีน้ำเงินมาหรือไม่ เพื่อแลกกับ การที่ป.ป.ช.จะลงดาบ อดีตสส.ก้าวไกล เพียง “บางราย” เท่านั้น

            อย่างไรก็ดี ดีลลับฉบับพิเศษ ว่าด้วยสูตร ส้มผสมน้ำเงิน รอบนี้อาจเกิดขึ้น “เฉพาะกิจ” หลังจากที่ ทักษิณ เดินหน้า “ชน” กับพรรคสีน้ำเงินมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ว่าดีลลับดังกล่าวนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ก็ตาม อย่าลืมว่า “แอร์วอร์” สงครามไร้ร่องรอยเช่นนี้ มีแต่จะลดทอน เครดิตของพรรคประชาชน โดยที่ยังไม่ทันได้ขึ้นชกด้วยซ้ำ !