ความคืบหน้าของโครงการเงินหมื่นของรัฐบาล ล่าสุด นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในช่วงต้นเดือน มีนาคม 2568 เพื่อหาข้อสรุปและความชัดเจนเกี่ยวกับการเดินหน้าโครงการดังกล่าวพร้อมยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาว่าจะแจกเงินให้กับผู้ที่มีอายุระหว่าง 16-20 ปี ก่อน ตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด

โดยคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะต้องพิจารณาก่อนว่าการดำเนินการแจกเงิน จะออกมาในรูปแบบไหน อย่างไร และช่วงไหน โดยเบื้องต้นจะต้องขึ้นอยู่กับจำนวนประชาชนที่ผ่านเกณฑ์ด้วย เพราะขณะนี้มีเพียงข้อมูลตัวเลขผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” เข้ามาเท่านั้น ยังไม่มีตัวเลขผู้ที่ผ่านเกณฑ์เฟส 3 ดังนั้น จะต้องมีการคัดกรองตามหลักเกณฑ์ด้วย

ก่อนหน้านี้กรณีที่นายเผ่าภูมิ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ว่าคนที่มีสมาร์ทโฟน แต่ไม่ได้ลงทะเบียนเงินดิจิทัลผ่านแอปฯ ทางรัฐ เมื่อเดือน สิงหาคม 2567 ตามที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ และหวังที่จะสวมรอยแสร้งทำเป็นไม่มีสมาร์ทโฟน เพื่อหวังที่จะลงทะเบียนในกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน การกระทำดังกล่าว ไม่สามารถทำได้ เพราะรัฐบาลมีหลักเกณฑ์การตรวจสอบการใช้ Data ในเน็ตมือถือ เช่น หากในรอบ 3 เดือนย้อนหลัง มีการใช้อินเทอร์เน็ตมือถือเกิน 500 MB แสดงว่ามีสมาร์ทโฟน ก็จะหมดสิทธิ์ที่จะได้รับเงิน 10,000 บาท ซึ่งรัฐบาลได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะกลุ่มคนที่ตั้งใจสวมรอย แกล้งทำเป็นไม่มีสมาร์ทโฟน เข้าลงขอลงทะเบียนจำนวนมาก รัฐบาลเองก็มีกลไกในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว

กระนั้น อยากฝากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณากรณีผู้สูงอายุ ที่มีสมาร์ทโฟนแต่ไม่ได้ลงทะเบียนผ่านแอปฯทางรัฐ ซึ่งต้องยอมรับว่าผู้สูงอายุมีความสามารถในการใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนแตกต่างกันไม่เท่ากัน แม้จะสามารถเข้าไปดูคอนเทนท์ในแอปฯต่างๆได้ แต่การโหลดแอปฯ และดำเนินการต่างๆนั้นอาจไม่สามารถทำได้ เนื่องจากอาจอยู่ห่างไกลกับลูกหลาน เช่น ทำงานอยู่คนละจังหวัดเป็นต้น 

และที่ผ่านมาในโครงการของรัฐที่ให้ดำเนินการติดตั้งแอปฯต่างๆ ก็มักจะมีมิจฉาชีพแฝงตัวมาในคราบผู้หวังดีดำเนินการให้กับกลุ่มผู้สูงอายุตุ่ดท้ายถูกยกยักยอกเงินไปก็มีทำให้ผู้สูงอายุบางส่วนแม้จะมีสมาร์ทโฟน แต่ก็รอที่จะไปลงทะเบียนในกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนกับทางธนาคารต่างๆ เพื่อความมั่นใจในเจ้าหน้าที่ของธนาคารรัฐ

ดังนั้น การพิจารณาคัดกรองของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง จะพิจารณาเจตนาของกลุ่มผู้สูงอายุเหล่านี้อย่างไร หากจะตัดโอกาสของกลุ่มผู้สูงอายุเหล่านี้ ผู้เขียนก็มองว่าไม่เป็นธรรม