ร้อยเอก ดร.จารุพล เรืองสุวรรณ

อาจารย์ประจำคณะการทูตและการต่างประเทศ

มหาวิทยาลัยรังสิต

เมื่อปีก่อนมองโลกเหลียวไทยได้พาท่านผู้อ่านไปพบกับ Global Risk Report 2024 มาแล้ว ซึ่ง Global Risk Report เป็นการทำแบบสอบถามจากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทั่วโลกเพื่อประเมินว่าในปีนั้นๆจะมีปัญหาความมั่นคงอะไรที่เด่นชัดและน่ากังวลบ้าง จึงถือได้ว่ารายงานประจำปีที่จัดทำโดย World Economic Forum ชิ้นนี้ เป็นคัมภีร์สำคัญสำหรับการทำงานด้านความมั่นคงที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก

วันนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปอัปเดต Global Risk Report ฉบับล่าสุดปี 2025 กันครับ

จากการทำแบบสอบถาม นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ได้ให้ความสำคัญสูงสุด 5 อันดับแรกสำหรับปี 2025 ไปที่ 1) สงครามระหว่างรัฐ (State-based armed conflict) 2) สภาพอากาศที่เลวร้าย (Extreme weather events) 3) การเผชิญหน้าทางภูมิเศรษฐกิจ (Geoeconomic confrontation) 4) การเผยแพร่ข้อมูลเท็จและการสร้างข้อมูลเท็จ (Misinformation and disinformation) และ 5) การแบ่งขั้วทางสังคม (Societal polarization)  

ในขณะที่การคาดการณ์ล่วงหน้าระยะ 2 ปี พบว่า 5 อันดับแรกคือ 1) การเผยแพร่ข้อมูลเท็จและการสร้างข้อมูลเท็จ (Misinformation and disinformation) 2) สภาพอากาศที่เลวร้าย (Extreme weather events) 3) สงครามระหว่างรัฐ (State-based armed conflict) 4) การแบ่งขั้วทางสังคม (Societal polarization) และ 5) การจารกรรมและสงครามทางไซเบอร์ (Cyber espionage and warfare)

สำหรับการคาดการณ์ในระยะ 10 ปี พบว่า 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) สภาพอากาศที่เลวร้าย (Extreme weather events) 2) การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและการล่มสลายของระบบสิ่งแวดล้อม (Biodiversity loss and ecosystem collapse) 3) การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงต่อระบบโลก (Critical change to earth systems) 4) การขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ (Natural resources shortages) และ 5) การเผยแพร่ข้อมูลเท็จและการสร้างข้อมูลเท็จ (Misinformation and disinformation)

จากข้อมูลที่ได้กล่าวไปพบว่า “สงครามระหว่างรัฐ”คว้าตำแหน่งแชมป์สำหรับปีนี้ และยังคงความสำคัญต่อไปในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นสงครามที่ยืดเยื้ออยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น รัสเซีย-ยูเครน หรือ อิสราเอล-ปาเลสไตน์ ที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกยังคงกังวลกับเรื่องนี้เป็นอันดับต้นๆ และคาดการณ์กันได้ว่าน่าจะยังคงความร้อนแรงต่อไปอีกอย่างน้อย 2 ปี

ในขณะที่สภาพอากาศอันเลวร้าย (Extreme weather events) ได้ถูกให้ความสำคัญอย่างมากเช่นกัน ทั้งสำหรับภายในปีนี้และสำหรับอนาคตข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องกับปัญหาโลกเดือดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ที่มาพร้อมๆความกังวลของอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นและการเพิ่มสูงขึ้นของระดับน้ำทะเล รวมถึงผลกระทบด้านอื่นๆ หากมองในการคาดการณ์ระยะยาว 10 ปี จะยิ่งเห็นภาพที่ชัดยิ่งขึ้นถึงการให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยได้มีการแตกมิติด้านสิ่งแวดล้อมออกมาอย่างน่าสนใจ มิใช่แค่ในมิติของอุณหภูมิโลกเท่านั้น แต่ยังได้รวมถึงด้านชีวภาพ ด้านการเปลี่ยนแปลงต่อระบบสิ่งแวดล้อม รวมไปจนถึงการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ

นี่เป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่งที่ทุกรัฐบาลทั่วโลกควรตะหนัก ว่าปัญหานี้นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

การเผยแพร่ข้อมูลเท็จและการสร้างข้อมูลเท็จ (Misinformation and disinformation) เป็นอีกเรื่องที่ได้รับความสำคัญอย่างมาก กล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในเงาตามตัวของการพัฒนาเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารในยุคปัจจุบัน ซึ่งสามารถก่อให้เกิดผลกระทบได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นในมิติทางการเมือง เศรษฐกิจ และทางสังคม ประเด็นนี้ได้รับความสนใจทั้งในปีนี้ ในการคาดการณ์ระยะสั้น ตลอดจนระยะยาว

กล่าวโดยภาพรวมได้ว่า ปี 2025 จะยังคงเป็นปีที่ร้อนแรงสำหรับปัญหาความมั่นคง โดยเฉพาะในด้านความขัดแย้งระหว่างรัฐที่ยังคงมีอยู่ ผนวกด้วยปัญหาด้านไซเบอร์ และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความแตกแยกทางสังคม ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนเชื่อมโยงและส่งผลต่อกันและกันทั้งสิ้น

อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคือประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ที่ดูแล้วได้รับความสนใจและมีความน่ากังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญที่สุด เป็นปัญหาที่มีเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ๆ ว่า “เราจะแก้ไขมันได้หรือไม่” และ “เราจะแก้ไขมันได้อย่างไร” เรียกได้ว่า ใหญ่กว่าปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐหลายเท่านัก เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องที่จะจบลงได้ด้วยการพูดคุย หรือการเจรจา

เพราะ...สิ่งที่เราๆทำกับธรรมชาติจนสูญเสีย กลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม จะเปลี่ยนกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่ ไม่สามารถจบลงได้ที่โต๊ะ “เจรจา” เพราะเราคงไม่สามารถเจรจากับธรรมชาติได้ สิ่งเดียวที่ทำได้ คือ “การลงมือทำ” ของมนุษย์ของดาวเคราะห์ที่ชื่อว่า “โลก” ทุกคน

ก็ได้แต่หวังว่า จะมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะ “ทำอะไร” “ทำอย่างไร” และจะเริ่มต้นกัน “เมื่อไร” ก่อนที่จะสายเกินไป

เอวัง