รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ปรัชญาตะวันตกมีแนวโน้มให้ความสำคัญกับความสุขที่สัมพันธ์กับความสำเร็จส่วนบุคคล การบริโภควัตถุ และการควบคุมสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น แนวคิดของ Hedonism มองว่าความสุขคือการแสวงหาความพึงพอใจสูงสุดทางประสาทสัมผัส ขณะที่ Utilitarianism ให้คุณค่ากับความสุขโดยรวมของสังคม แนวคิดเหล่านี้เน้นผลลัพธ์ทางวัตถุ การประสบความสำเร็จในอาชีพ หรือการมีฐานะทางเศรษฐกิจที่มั่นคง
คนในสังคมตะวันตกจึงมักแสวงหาความสุขผ่านการแข่งขัน การตั้งเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน การบริโภคสิ่งอำนวยความสะดวก และการสร้างภาพลักษณ์ทางสังคม ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากการใช้ Social Media ที่แพร่หลาย การโพสต์ภาพหรือเรื่องราวเกี่ยวกับความสำเร็จส่วนบุคคล การท่องเที่ยว หรือการใช้ชีวิตที่หรูหรา ล้วนสะท้อนความต้องการการยอมรับจากผู้อื่น ในสังคมดิจิทัล Social Media อาจกลายเป็นแหล่งของความทุกข์เมื่อเกิดการเปรียบเทียบทางสังคม (Social Comparison) ผู้ใช้ที่เห็นภาพชีวิตที่ดูสมบูรณ์แบบของผู้อื่นอาจรู้สึกด้อยค่า นำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพจิต เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล หรือภาวะซึมเศร้า การแสวงหาความสุขผ่านการสะสมยอดไลก์และยอดผู้ติดตามจึงเป็นดาบสองคมที่สร้างทั้งความสุขและความทุกข์ไปพร้อมกัน
ขณะที่ปรัชญาตะวันออกให้ความสำคัญกับความสุขโดยเน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติ ความสมดุลทางจิตใจ และการปล่อยวางจากวัตถุ ตัวอย่างที่ชัดเจนได้แก่ พุทธปรัชญาซึ่งมองว่าความสุขแท้จริงเกิดจากการหลุดพ้นจากความทุกข์ ผ่านการเข้าใจความจริงของชีวิต (อริยสัจ 4) และการปฏิบัติทางจิตใจ เช่น การเจริญสติและสมาธิ หรือลัทธิเต๋ามุ่งดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับสภาวะธรรมชาติ (Wu Wei) คือหนทางสู่ความสุขที่เรียบง่ายและยั่งยืน
คนในสังคมที่ได้รับอิทธิพลจากปรัชญาตะวันออกจึงมักให้ความสำคัญกับความสงบภายใน การยอมรับสภาพแวดล้อม และการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง การฝึกสมาธิและการแสวงหาความรู้ทางจิตวิญญาณ และแม้ว่า Social Media จะมีบทบาทในสังคมตะวันออกเช่นเดียวกับตะวันตก แต่ผู้ใช้อาจมีมุมมองที่แตกต่างในการรับมือกับผลกระทบ ตัวอย่างเช่น บางคนใช้ Social Media เพื่อเผยแพร่เนื้อหาที่เกี่ยวกับการทำสมาธิหรือข้อคิดทางจิตวิญญาณ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและความสงบให้กับผู้อื่น อย่างไรก็ตาม ความทุกข์จากการเปรียบเทียบทางสังคมยังคงเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อาจรับอิทธิพลจากวัฒนธรรมการบริโภคของตะวันตก
แม้ปรัชญาตะวันตกและตะวันออกจะมีมุมมองต่อความสุขที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองต่างมีบทเรียนที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตเพื่อนำไปสู่ความสมดุลของจิตใจและความสำเร็จในสังคมร่วมสมัย โดยเฉพาะในการสร้างความสุขให้กับเยาวชนจึงควรเน้นการผสมผสานแนวคิดหรือมุมมองเหล่านี้เข้าด้วยกันเพื่อนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต
เยาวชนในยุคปัจจุบันเติบโตขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสื่อดิจิทัล Social Media กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตที่มีบทบาทในการกำหนดทั้งความสุขและความทุกข์ของเยาวชน การเชื่อมต่อกับเพื่อน การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ และการเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงที่หลากหลายสามารถสร้างความสุขให้กับเยาวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หนึ่งในแง่มุมที่โดดเด่นของเยาวชนในยุคนี้คือการมีส่วนร่วมในโลกของเกมออนไลน์และ e-Sport ซึ่งเป็นทั้งกิจกรรมบันเทิงและโอกาสในอาชีพ การเล่นเกมสามารถสร้างความสุขให้กับเยาวชนผ่านการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา การทำงานเป็นทีม และการได้รับความยอมรับในชุมชนเกม อย่างไรก็ตาม หากขาดการบริหารเวลาที่เหมาะสม การเล่นเกมอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ เช่น การขาดการพักผ่อนหรือการเสพติดเกมจนส่งผลต่อการเรียนรู้
ผลสำรวจดัชนีเยาวชนดิจิทัล (Digital Youth Index) ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับผลกระทบของการเล่นเกมต่อคุณภาพชีวิตของเยาวชน พบว่าเยาวชนที่เล่นเกมมีแนวโน้มที่จะมีความสุขในชีวิตมากกว่าโดยมีถึงร้อยละ 69 ที่รายงานว่ารู้สึกมีความสุข เมื่อเทียบกับเยาวชนที่ไม่ได้เล่นเกมซึ่งมีเพียงร้อยละ 63 นอกจากนี้ ยังพบว่าการเล่นเกมอาจช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวได้ด้วย โดยมีเพียงร้อยละ 31 ของเยาวชนที่เล่นเกมที่รู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยว ขณะที่เยาวชนที่ไม่ได้เล่นเกมมีถึงร้อยละ 38 ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเยาวชนที่เล่นเกมมีแนวโน้มที่จะใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการรักษาสัมพันธภาพกับเพื่อนมากกว่า โดยมีสูงถึงร้อยละ 76 เทียบกับกลุ่มที่ไม่เล่นเกมซึ่งมีร้อยละ 71
จากข้อมูลผลสำรวจนี้ สะท้อนให้เห็นว่าการเล่นเกมอาจมีส่วนช่วยเสริมสร้างความสุขและความสัมพันธ์ทางสังคมของเยาวชนได้ โดยช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวและเพิ่มโอกาสในการเชื่อมต่อกับผู้อื่นผ่านช่องทางออนไลน์ การส่งเสริมให้เยาวชนมีมุมมองเชิงสร้างสรรค์ต่อการเล่นเกม และการสนับสนุนกิจกรรม e-Sport สามารถช่วยให้เยาวชนแสวงหาความสุขและความสำเร็จในรูปแบบใหม่ ๆ
เพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืน เยาวชนควรได้รับการส่งเสริมให้ใช้ Social Media อย่างมีสติและสมดุลระหว่างโลกดิจิทัลและ
ชีวิตจริง ลดการเปรียบเทียบกับผู้อื่น และหันมาให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการทางจิตใจ เช่น การฝึกสมาธิ การออกกำลังกาย และการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครอบครัว ทั้งหมดนี้จะเข้าข่าย “สุขแท้” หรือ “สุขเทียม” ของใคร? อย่างไร? ก็ใช้
จริตและวิจารณญาณกันเอาเองนะครับ...